รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศนำนักธุรกิจเยือนคาซัคสถาน มุ่งขยายการลงทุนร่วมกัน หลัง ครม.เห็นชอบวีซ่าฟรีคาซัคสถานต่ออีก 6 เดือน หวังดึงนักท่องเที่ยวเพิ่ม 2 แสนคนเข้าประเทศไทย ต่อยอดสินค้าเกษตรนำผลไม้ไทยส่งขายประเทศเมืองหนาวง
นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำภาคธุรกิจของไทยร่วมประชุมเต็มคณะกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคาซัคสถานซึ่งรับผิดชอบงานการลงทุนระหว่างประเทศ หลังการหารือได้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับ QazTrade โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมเป็นสักขีพยาน
นายจักรพงษ์เปิดเผยว่าคาซัคสถานเป็นประเทศที่มีโอกาสมากในแถบเอเชียกลาง มีประชากร 20 ล้านคนมีรายได้ต่อหัวที่สูงมากและมีทรัพยากรธรรมชาติที่สูง นายกรัฐมนตรีจึงให้ความสำคัญกับประเทศในแถบนี้ ซึ่ง ครม. เพิ่งเห็นชอบขยายเวลาวีซ่าฟรี คาซัคสถาน ต่อ 6 เดือน หลังยอด นทท. และกำลังซื้อสูงพุ่ง ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยถึง 170,000คน ปีนี้จึงตั้งเป้าให้นักท่องเที่ยวเข้ามา 200,000คน ซึ่งนักท่องเที่ยวคาซัคสถานจะใช้เวลาอยู่ไทยนานถึง 14วัน
ครั้งนี้จึงนำภาคธุรกิจกลุ่มโรงพยาบาลมาด้วยจะมาดึงด้านการแพทย์และ Wellness ที่ประเทศไทยมีความชำนาญในสาขานี้มาก การมาเยือนคาซัคสถานครั้งนี้ก็จะเป็นการดึงการลงทุนของทั้งสองประเทศ
นายจักรพงษ์กล่าวถึงสาเหตุที่เลือกคาซัคสถาน เพราะเป็นประเทศที่มีอาการร้อนยาวนานถึง 7 เดือน จึงเป็นกลุ่มที่มีความสนใจท่องเที่ยวช่วงที่อุณหภูมิติดลบถึง 30 องศาอยากไปอยู่ประเทศที่อุ่นขึ้น ซึ่งภูเก็ตเป็นเมืองที่ชาวคาซัคสถานอยากไปเที่ยว รัฐบาลจึงมีแนวคิดจะขยายตลาด ขณะเดียวกันก็จะไปเปิดตลาดในประเทศแถบนี้ทั้ง อุซเบกิสถานและประเทศอื่นๆ
ขณะเดียวกันรัฐบาลก็เตรียมจะเปิดสายการบินเพิ่มจากที่มีเที่ยวบินจากคาซัคสถานบินตรงไปสุวรรณภูมิและภูเก็ต 40 เที่ยวต่อสัปดาห์ และการบินไทยก็ให้ความสนใจอยากจะเปิดเที่ยวบิน การหารือเต็มคณะวันนี้ของทั้งสองฝ่ายก็ได้เห็นถึงความตั้งใจและอยากลงทุนของทั้งสองประเทศ เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่อยากจะเปิดตลาดใหม่ เพื่อดึงการลงทุนให้ประเทศไทย ซึ่งคาซัคสถานก็ชอบผลไม้ไทย ขณะที่คาซัคสถานก็มีแร่ธาตุ เหมืองแร่และน้ำมัน รัฐบาลคาซัคสถานพร้อมให้ไทยมาลงทุน และอยากนำเนื้อสัตว์ส่งไปประเทศไทยซึ่งรัฐบาลก็จะนำไปพิจารณาต่อไป