ศ.สรข.DSI แจ้ง4ข้อหาพร้อมคุมตัว”เฮียเก้า”ส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ!!

300


วันนี้ (วันจันทร์ที่ 22มกราคม 2567) ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้มอบหมายชุดปฏิบัติการที่ 4 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวนำโดย นายวุฒิไกร  ศรีธวัช ณ อยุธยา ทำการจับกุม นายหลี่ หรือนาย เชิงเจียว ผู้ต้องหาคดีพิเศษที่ 127/2566 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 111/2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ” และ “โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น” “นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย””ฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน””ฐานเป็นอั้งยี่” ตามพระราชบัญญัติศุลกากรพุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบรามการ ฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และประมวลกฎหมายอาญาโดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว จับกุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง


    หลังจากจับกุมแล้ว ได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวข้างต้นทราบแล้ว ได้ควบคุมตัวมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษและส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีพิเศษที่ 127/2566 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

“พ.ต.ต.ณฐพล” สอบเครียด “เฮียเก้า” 30 ประเด็น เจ้าตัวยอมรับขายตีนไก่ส่งจีนจริง พร้อมโต้ประเด็นเป็นน้องชาย “เฉลิมชัย” อ้าง ปู่ทั้งคู่อยู่หมู่บ้านเดียวกันเท่านั้น แย้ม พรุ่งนี้ 9 โมง นำทีมประชุมสรุปความคืบหน้าคดี-พยานหลักฐาน จ่อปักธง กางรายชื่อข้าราชการระดับสูง ให้ข้อมูลสินค้านำเข้า 10,0000 ตู้คอนเทเนอร์ตั้งแต่ปี 64 ไขปมเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิด

ภายหลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ควบคุมตัวนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า 1 ใน 5 ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีตีนไก่สวมสิทธิ หรือคดีพิเศษที่ 127/2566 ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 , พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 , ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน โดยมีการทำบันทึกจับกุมบนชั้น 4 อาคารดีเอสไอ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้นำตัวเฮียเก้าเคลื่อนย้ายมายังห้องพนักงานสอบสวน ณ ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 เพื่อให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมาย อาทิ การสอบปากคำ การพิมพ์ลายนิ้วมือ นั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 22 ม.ค. ที่ ห้องพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ควบคุมตัวนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า มาส่งให้กับ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวน ทำการสอบปากคำ ซึ่งประเด็นในการสอบปากคำเบื้องต้นนั้น พนักงานสอบสวนจะสอบถามข้อมูลส่วนตัว พฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหมายจับ เช่น ความเป็นมาของการประกอบธุรกิจส่งขายตีนไก่ไปจำหน่ายต่างประเทศ ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ หุ้นส่วนทางการค้า บริษัทชิปปิ้งเอกชนที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับไปใช้ในการขยายผล อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการสอบปากคำยังพบว่าพนักงานสอบสวนมีการนำใบเอกสารขนาด A4 ปรากฏเป็นภาพผังสมาชิกของสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย (Thai – Asia Economic Exchange Trade Association) ซึ่งมีเฮียเก้าดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคม ขณะที่ในผังสมาชิกสมาคมดังกล่าว ยังปรากฏรายชื่อของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ดำรงตำแหน่ง นายกกิตติคุณถาวร รวมถึงยังพบเอกสารเส้นทางการเงินและแผนผังความสัมพันธ์เชื่อมโยงของบุคคลและนิติบุคคลทั้งหมดที่อยู่ในรายงานการสืบสวนของดีเอสไอ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินจำนวนหลักหลายล้านบาทจากเฮียเก้าไปยังบริษัท เดอะ คิวบ์ โลจิสติกส์ หรือเฮียเก้ารับโอนเงินหลักล้านบาทจากบริษัท ฟู้ด วิลเลจ จำกัด

ต่อมาเวลา 18.00 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวน ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า ได้เดินทางกลับจากประเทศจีนมายังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเข้ามอบตัวต่อสู้คดี ซึ่งในการสอบปากคำเบื้องต้น เฮียเก้าให้การปฏิเสธ พร้อมระบุว่าจะนำข้อมูลและหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวนในภายหลัง ส่วนประเด็นที่จะต้องสอบถามเฮียเก้าในวันนี้ จะเกี่ยวข้องกับการที่เฮียเก้าและพวกร่วมกันกระทำความผิดตามข้อหาที่ได้แจ้งไป เช่น การขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีน การโอนเงินระหว่างเฮียเก้าและบุคคลอื่น รวมถึงเรื่องผังสมาชิกของสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย (Thai – Asia Economic Exchange Trade Association) โดยเราได้ตั้งประเด็นไว้ 30 คำถาม ซึ่งก็เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อหาในหมายจับ รวมถึงประเด็นของบริษัทห้องเย็น บริษัทชิปปิ้งเอกชนอีกด้วย โดยดีเอสไอจะสอบทั้งหมด นอกจากนี้ เฮียเก้ายังระบุด้วยว่าเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้เดินทางไปประเทศจีนเพื่อดำเนินธุรกิจแพมเพิร์สที่เจ้าตัวบริหารอยู่ แต่พอทราบข่าวว่าดีเอสไอมีการออกหมายจับ จึงประสานให้ทนายความแจ้งมายังดีเอสไอว่าจะขอเข้ามอบตัว ส่วนนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ บุตรชายของเฮียเก้า เบื้องต้นเฮียเก้าระบุว่าได้ติดต่อไปยังลูกชายแล้ว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่เฮียเก้าอ้างว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีนนั้น ตอนนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสอบปากคำต่อเนื่อง ซึ่งผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่แน่นอนแล้วว่าเขารับสารภาพเรื่องการทำธุรกิจขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีนจริง มีการรับส่วนต่างจากการประกอบธุรกิจดังกล่าว และตีนไก่ที่ส่งขายจีน ก็อ้างว่านำสินค้าภายในประเทศไทยรวบรวมให้ได้ตามโควต้าและนำไปขาย ไม่ได้มีการสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งในเรื่องของโควต้าที่เฮียเก้ามี พนักงานสอบสวนก็จะใช้ในการสอบปากคำเช่นกัน ส่วนเรื่องความสัมพันธ์รู้จักกับข้าราชการฝ่ายการเมือง (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) เฮียเก้ายังไม่ได้มีการระบุในเรื่องนี้แต่อย่างใด ให้การเพียงแค่ว่ามีต้นตระกูลอยู่ที่ประเทศจีน และปู่ของเฮียเก้าและนายเฉลิมชัยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งเราก็จะใช้สอบถามเหมือนกันว่าทั้งเฮียเก้าและนักการเมืองรายดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกันแค่ไหน อย่างไร

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวต่อว่า สำหรับคู่ค้าเรื่องการทำตีนไก่ส่งขายประเทศจีนของเฮียเก้า พบว่ามีหลายราย ส่วนกรณีของนายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในหมายจับเดียวกับเฮียเก้านั้น เจ้าตัวยังไม่ให้การในประเด็นนี้ แต่เราพบว่ามีความเชื่อมโยงในส่วนของพยานบางส่วน และเรายังไม่ได้มีการสอบถามในเรื่องความรู้จักกันกับนายสมเกียรติ กอไพศาล หรือเฮียเกีรยติ ( 1 ในผู้ต้องหาที่จับกุมแล้ว) ทั้งนี้ ธุรกิจค้าขายตีนไก่ของเฮียเก้าและสองสามีภรรยา ถือว่าต่างคนต่างทำ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้หากเสร็จสิ้นการสอบปากคำ จะให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือให้ปากคำว่าเป็นประโยชน์ต่อสำนวนเพียงใด และตนจึงจะเสนอเรื่องไปยัง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ เพื่อพิจารณา

ทั้งนี้ พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (อังคารที่ 23 ม.ค.) เวลา 09.00 น. ที่ ห้องพนักงานสอบสวน ตนได้นัดหมายพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อนและคดีตีนไก่สวมสิทธิ เพื่อหารือและสรุปรายละเอียดถึงประเด็นการออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย คือ เฮียเก้าและพวก รวมถึงแนวทางการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังไม่เข้ามอบตัว อย่างลูกชายของเฮียเก้า และจะพูดคุยเกี่ยวกับพยานหลักฐานที่แต่ละทีมได้รวบรวมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้วิเคราะห์ว่าจะมีการเชิญข้าราชการระดับสูง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐรายใด หน่วยงานใดเข้าให้ข้อมูลในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ลักลอบนำเข้าสินค้าทางการเกษตร โดยเราจะดูจากพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมมาทั้งหมด ส่วนจะมีใครบ้างที่ดีเอสไอจะเชิญมาให้ปากคำในฐานะพยาน ก็จะทราบในวันพรุ่งนี้ โดยเราจะสอบถามทุกหน่วยงานที่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีพิเศษที่ 127/2556 หรือคดีการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิดกว่า 10,000 ตู้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมูเถื่อน เนื้อวัวเถื่อน และตีนไก่สวมสิทธิ โดยไล่ย้อนไทม์ไลน์ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 จนถึงปัจจุบัน ส่วนจะมีตัวการที่ใหญ่กว่าเฮียเก้าหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวนจะต้องดูจากรายละเอียดทั้งหมดก่อน

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์