รวบ2ผัวเมียตัวการผลิตจำหน่ายอาวุธปืนแบลงค์กัน ยึดของกลางอื้อ!!

29142

สืบนครบาลร่วมกับชุด PCT 5 ทลาย 2 จุดผัวเมียตัวการผลิต จำหน่ายอาวุธปืนแบลงค์กันแปลง ชิ้นส่วนอาวุธปืนส่งขายผ่านกลุ่มปิดทางโซเชียล

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยปัจจุบันสถิติอาชญากรรมที่มีการใช้นำอาวุธปืนไปประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย ปล้น ชิงทรัพย์ ในลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายมีเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก อาทิ เหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้า , เด็กนักเรียนนักศึกษาต่างสถาบันนำอาวุธปืนไปใช้ยิงคู่อริ เป็นต้น ซึ่งหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ความพยายามสืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเพื่อมาก่อเหตุผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ตระหนักและเน้นย้ำให้กำลังพลในสังกัดเฝ้าสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มเครือข่ายที่ลับลอบจำหน่ายอาวุธปืนต่างๆ ทางออนไลน์และช่องทางอื่นให้มีผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง จนชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ออกแกะรอยสืบสวนจนพบ “ บุคคลซึ่งลับลอบจำหน่ายอาวุธปืนผิดกฎหมายให้กลุ่มผู้ซื้อผ่านกลุ่มลับ ” ซึ่งเป็นอีก 2 ตัวการสำคัญซึ่งเป็นต้นตอของการก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นในสังคมอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย จึงนำกำลังสืบนครบาลเข้าค้นจำนวน 2 จุด

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ , พ.ต.ต.ทศรัศมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ธนพล มโนษร , ร.ต.อ.ปฏิภาณ ไกรลาศฉิมพลี , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่ 4 และ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.ได้ร่วมจับกุม .นายวิมล อายุ 39 ปีและนางสาวจันทนา อายุ 37 ปี


โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 และ ที่ 2 ว่า ” มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต “

  จุดที่ 1 ตรวจค้นบ้านเลขที่ 10/26 หมู่ 7 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี บ้านของผู้ต้องหาที่ 1 ผลการตรวจพบสามารถตรวจยึดอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาด .380 ได้ เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่างๆ ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่างๆ ได้ ตลอดจนหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี จำนวน 40รายการ เช่น กล่องพัสดุสีน้ำตาล ระบุชื่อผู้ส่ง จำนวน 1 กล่อง, อาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงใช้กระสุนจริง ขนาด .380 ยี่ห้อ ZORAKI รุ่น 914-TD จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน 1 อัน และกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 4 นัด, อาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงใช้กระสุนจริง ขนาด .380 ยี่ห้อ GLOCK จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน 2 อัน, อาวุธปืนแบลงค์กันเลียนแบบอาวุธปืน ยี่ห้อ SIG SAUER รุ่น P365 จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกาซีน 2 อัน, อาวุธปืนแบลงค์กัน ยี่ห้อ RETAY เลียนแบบอาวุธปืนยี่ห้อ GLOCK จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน 2 อัน, อาวุธปืนแบลงค์กัน สีเงิน ยี่ห้อ EKOL จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกาซีน 2 อัน, กระสุนปืนแบลงค์กัน ขนาด 9 มม. P.A.K. จำนวน 50 นัด, โทรศัพท์มือถือ, เครื่องพิมพ์สลาก กระสุนปืนและของกลางอื่นๆจำนวนมาก

จุดที่ 2 เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 133/3 หมู่ 7 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ของผู้ต้องหาที่ 2ผลการตรวจพบสามารถตรวจยึดอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาด .380 ได้ เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่างๆ ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่างๆ ได้ ตลอดจนหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี จำนวน 16 รายการ เช่น อาวุธปืนยาว (ไทยประดิษฐ์) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก

, กระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 40 นัด, อุปกรณ์เก็บเสียง (ใช้กับของกลางรายการที่ 1) จำนวน 1 อัน, อาวุธปืนสั้น (ไทยประดิษฐ์) ยี่ห้อ โคลท์ โมเดล กอฟเวอร์เม้นท์ ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก, แม็กกาซีน (ใช้กับของกลางรายการที่ 4) จำนวน 1 อัน, และกระสุนปืนอีกจำนวนมาก

กล่าวคือ ชุดลาดตระเวนออน์ไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวฯสืบนครบาลได้สืบสวนเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่างๆ ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่างๆ ได้ทางโลกโซเชียล และส่งทางพัสดุไปรษณีย์ จึงได้ทำการเฝ้าสืบสวนติดตามพฤติกรรม จนพบสถานที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นสถานที่จัดส่งพัสดุซึ่งภายในบรรจุอาวุธปืนเพื่อส่งขายให้ผู้ที่สั่งซื้อผ่านกลุ่มลับ ตลอดจนสถานที่ซึ่งใช้เป็นสถานที่ผลิดอาวุธปืน ชิ้นส่วนอาวุธปืน และที่ซุกซ่อนอาวุธปืนที่ผลิตเสร็จเพื่อรอส่งขายให้แก่ลูกค้า จำนวน 2 จุด จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลจังหวัดสระบุรีเพื่อพิจารณาอนุมัติหมายค้นเพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมความผิดต่อมาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 11/2567 ลงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2567 เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 10/26 หมู่ 7 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ผลการตรวจพบผู้ต้องหาที่ 1 สามารถตรวจยึดอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาด .380 ได้ เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่างๆ ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่างๆ ได้ ตลอดจนหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี จำนวน 41 รายการ/ 762  ชิ้น ปรากฏตามของกลางจึงได้จับกุมตัว นายวิมล

  ต่อมาวันเดียวกัน เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 12/2567 ลงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2567 เข้าทำการตรวจค้นจุดที่ 2 บ้านเลขที่ 133/3 หมู่ 7 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ผลการตรวจพบสามารถตรวจยึดอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาด .380 ได้ เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่างๆ ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่างๆ ได้ ตลอดจนหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี จำนวน 16 รายการ ปรากฏตามของกลางจึงได้จับกุมตัว นางสาวจันทนา 


 
จากการซักถามนายวิมล ให้การว่าตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เดิมทีทำงานรับเหมาก่อสร้าง , พนักงานโรงงานเกี่ยวกับทำเหล็ก จนมีประสบการณ์เกี่ยวกับการอ๊อก เชื่อม กลึงเหล็ก จนเมื่อประมาณต้นปี 2566 ตนมีปัญหาสุขภาพ ทั้งด้านสายตา และโรงเบาหวาน จึงได้ลาออกจากงานประจำในโรงงานที่ทำ ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ตนจะลาออกจากงานตนมีความสนใจเกี่ยวกับการทำอาวุธปืนดัดแปลงจากปืนแบลงค์กัน โดยศึกษาดูวิธีการช่องยูทูบ และได้มีโอกาสฝึกทำระหว่างเลิกงานจนสามารถใช้ยิงกระสุนจริงได้ สามารถทำได้ดี จึงหันมารับจ้างทำเป็นอาชีพหลักและเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการกลุ่มลับ โดยตนได้ทำห้องไว้สำหรับผลิต ดัดแปลง อาวุธปืนแบลงค์กันให้สามารถยิงกระสุนจริงได้ไว้บริเวณหลังบ้านในพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ที่ตรวจค้น ซึ่งได้ดัดแปลงเอาห้องน้ำเก่าของบ้านที่ไม่ได้ใช้งานแล้วมาเป็นโรงงานผลิต และส่งขายให้แก่ลูกค้าซึ่งมีการสั่งซื้อทางออนไลน์ที่ผ่านมาทำมาแล้วกว่า 6 เดือน มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อมากพอสมควร ขายกระบอกละ 16,000 บาท กำไรหลังจากหักต้นทุนแล้วตกเฉลี่ยกระบอกละ 8,000 บาท ในส่วนลำกล้องปืนและโม่ปืนดัดแปลง ขายชิ้นละ 1,500 ถึง 2,000 บาท รวมรายได้ต่อเดือน/เดือนละกว่า 120,000 บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นบาท) เงินที่ได้มานำมาใช้จ่ายในครอบครัวและนำไปให้ นางสาวจันทนา ซึ่งเป็นภรรยาลงทุนขายลูกชิ้นหมาล่าในพื้นที่ พร้อมนี้ นางสาวจันทนา ภรรยารับว่าที่ผ่านมาตนทราบและรู้มาโดยตลอดว่าแฟนตนผลิต ดัดแปลง อาวุธปืนแบลงค์กันให้สามารถยิงกระสุนจริงได้และส่งขาย เห็นว่าพอมีรายได้เสร็จแก่ครอบครัวที่ดีจึงไม่ได้ห้าม แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับคดี นำส่ง พงส.สภ.แก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #สืบนครบาล #ตำรวจPCT5