ผบ.ตร.ชื่นชมตำรวจชุดคลี่คลายคดี ‘น้องชมพู่’ ยกเป็นโมเดลให้นักสืบรุ่นใหม่ แนะใช้วิธีสืบสวนดั้งเดิมควบคู่สมัยใหม่ตามจับคนทำผิด
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรฐานการทำงานของพนักงานสอบสวน ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ว่า ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่และรู้สึกพอใจผลการปฏิบัติงานในคดีนี้ ซึ่งคดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นการทำงานที่ยากมาก เนื่องจากคดีนี้ไม่มีพยานหลักฐานในอากาศ ไม่มีประจักษ์พยานใด ๆ แต่เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะฝ่ายสืบสวนได้พยายามสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์คือ เส้นผมของน้องชมพู่ที่ถูกตัด และพยานบุคคลที่ให้การมาตั้งแต่ต้น และไม่เคยกลับคำให้การเลย ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้สำนวนมีความแน่นหนาในระดับหนึ่ง จนทำให้ศาลเชื่อและมีคำพิพากษาดังกล่าวได้
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาได้โต้แย้งว่า ไม่ได้รับความชอบธรรมในการเข้าตรวจค้นรถของตนเองนั้น ก็เป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาสามารถทำได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน และการที่ศาลยกฟ้องนั้นก็เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยจึง ยกประโยชน์ให้จำเลยแต่หากมีพยานหลักฐานอื่น ๆ ก็สามารถเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์ได้
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จะต้องยกคดีของลุงพลนี้เป็นโมเดลในการปรับปรุงพัฒนางานสืบสวนในอนาคต ทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมศาสตร์ของคนร้าย และการสืบสวนแบบดั้งเดิม (back to basic) ซึ่งวานนี้ได้แจ้งกับที่ประชุมของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้วว่าให้ฝึกนักสืบรุ่นใหม่ ๆ ให้สามารถสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งประจักษ์พยานและพยานแวดล้อมด้วยวิธีแบบดั้งเดิม ยกระดับให้มีความเป็นสากลและมืออาชีพมากขึ้น