ผบ.ทบ.,รอง ผอ.รมน. ลงพื้นที่ขับเคลื่อนงาน จชต. บูรณาการพลเรือน ตำรวจ ทหาร รวมใจสร้างสันติสุข

21961

ในวันที่ 30 พ.ย. 66 พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก,รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและคณะผู้บังคับบัญชาเดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย, หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 และหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 ณ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในวันแรก ผู้บัญชาการทหารบกและคณะตรวจได้เข้าตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย โดยมี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ,ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปสถานการณ์และผลการปฏิบัติงานตามนโยบายสำคัญในด้านต่างๆ ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ได้แก่ การบูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครประจำพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยสถานที่และประชาชนกลุ่มเปราะบาง, การสกัดกั้นยาเสพติดและการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน รวมถึงการขับเคลื่อนชุมชนพหุวัฒนธรรม สร้างความเข้าใจในการแก้ปัญหาทุกระดับ โดยผู้บัญชาการทหารบกได้ระบุในที่ประชุมว่า ขอขอบคุณทุกส่วนที่ได้ปฏิบัติงานร่วมกันด้วยความเข้มแข็ง และเสียสละ ทั้งในส่วนของกำลังทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายพลเรือน แสดงให้เห็นถึงความเป็นทีมเดียวกัน โดยมีกลไกของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในการบูรณาการงานทุกภาคส่วนเข้าด้วยกันทั้งในเรื่องการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน งานด้านการช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติ และการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีวิถีชีวิตที่ดีและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม



วันที่สองของการตรวจเยี่ยมผู้บัญชาการทหารบกและคณะได้เดินทางไปยังหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 และคลังศูนย์ส่งกำลังบำรุงอโณทัย รับฟังบรรยายสรุป พร้อมทั้งพบปะและมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่กำลังพล ก่อนจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ ณ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 ในการนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณกำลังพลที่ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละในการปกป้องความสงบสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกำชับให้ทหารทุกนายทำหน้าที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ทหารอย่างเต็มกำลังความสามารถและต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากฝ่ายปกครอง ผู้นำศาสนา และภาคประชาชนในพื้นที่เพื่อให้เกิดความสงบสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์