เสิร์ฟความน่ารักสดใส “ยองแจ GOT7″ทูตประชาสัมพันธ์กิตติมศักดิ์ไทย-เกาหลี ปี 2023-2024

790

        หลังจากก่อนหน้านี้ผู้เขียนได้ทยอยเขียนผลงานและประวัติของสมาชิกวง GOT7ไปบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเจบี มาร์คต้วน  แจ๊คสันหวัง และแบมแบม มาถึงคิวของไอดอลอีกคน ที่อากาเซ่ ชาวไทยเทใจให้และให้การต้อนรับอบอุ่นทุกครั้งที่มาเมืองไทย เป็นใครไปไม่ได้เลยเขาคือ ชเว ยอง แจ หรือ ยองแจ GOT7 หรือเจ้านากน้อยของอากาเซ่ เมนโวคอลแห่ง GOT7  ที่เจ้าตัวยังคงสร้างสรรคผลงานเพลงออกมาให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ยองแจ ได้ปล่อยอัลบั้มเต็ม Solo ครั้งแรก’Do It’ มีทั้งหมด10เพลงด้วยกัน โดย Do It เป็นเพลงไตเติ้ล ของอัลบั้ม โดย ยองแจ บอกว่าเพลงนี้มีกลิ่นอายความสดชื่นเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ตกหลุมรักหญิงสาว ที่สำคัญยองแจ ยังได้มีส่วนร่วมในเกือบทุกส่วนของอัลบั้มอีกด้วย ทำให้อัลบั้มนี้ค่อนข้างมีความหมายสำหรับเขา

      และมิวสิกวิดีโอเพลง Do It ถูกปล่อยออกมาในวันเดียวกับอัลบั้ม เป็นเรื่องราวของยองแจที่นำแสดงในMV กำลังพยายามเข้าหาผู้หญิงที่เขาตกหลุมรักและตามมาด้วยความล้มเหลวมากมาย แต่ก็ตื่นขึ้นมาในวันใหม่อย่างสดชื่นและพยายามอีกครั้ง

      “ดนตรีเปลี่ยนแปลงทุกวินาทีตามไอเดียใหม่ๆ ผมแค่อยากเป็นนักร้อง ที่ทำเพลงต่อไป ผมอยากเป็นนักร้องที่ไปพร้อมกับยุคสมัย” ยองแจ กล่าว

      นอกจากนี้ ยองแจ GOT7 (Youngjae)”ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ทูตประชาสัมพันธ์กิตติมศักดิ์ไทย-เกาหลี ปี 2023-2024” ในงาน Korea Travel Festival ปีแห่งการท่องเที่ยว เกาหลี-ไทย ประจำปี 2566-2567 อีกด้วย และยังได้รับรางวัล พระพิฆเนศ  2022 ยองแจ อิน แบงค็อก รางวัลพระพิฆเนศ รางวัลศิลปินและนักแสดงยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ทูตส่งเสริมมิตรภาพวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวประจำอาเซียน โดยยองแจ ได้โพตส์ใน IG ขอบคุณ I GOT7 ที่ทำให้ได้รับรางวัลอันยอดเยี่ยมนี้ พร้อมชูสองนิ้ว ท่ามกลางแฟนๆ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่ร่วมยินดีจำนวนมาก 

      สำหรับประวัติคร่าวๆของ ยองแจ GOT7 เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน ปี 1996 ปัจจุบันอายุ 26 ปี ก่อนได้เดบิวต์ ยองแจ มีความฝันที่จะเป็นนักร้อง และยองแจได้เข้าร่วมกับสถาบันฝึกร้องเพลงในจังหวัดบ้านเกิดเพื่อที่จะฝึกเป็นนักร้องอาชีพ และในปี ค.ศ. 2011 เขาชนะในงานประกวดร้องเพลงที่ชื่อว่า Vocal Excellence Award at Mokpo Youth Music Festival

      ในปี 2013 บริษัท JYP ได้จัดการคัดเลือกเพื่อหาคนเข้าไปเป็นเด็กฝึกในบริษัท ซึ่งเป็นการคัดเลือกแบบปิด ทำให้ยองแจได้เข้าไปเป็นเด็กฝึกไอดอลจากการคัดเลือกครั้งนี้ ยองแจใช้เวลาฝึกฝนเป็นเวลา 7 เดือน แล้วในวันที่ 16 มกราคม ปี 2014 ก็ได้เดบิวต์ในฐานะสมาชิกของวงบอยกรุ๊ป GOT7 ซึ่งมีสมาชิกอีก 6 คน ได้แก่ เจบี มาร์ค แจ็คสัน จินยอง แบมแบม ยูคยอม โดยเปิดตัวพร้อมกับซิงเกิลที่ชื่อว่า Girls Girls Girls พร้อมกับปล่อยมินิอัลบั้มแรกออกมาในชื่อ Got It?

       GOT7 ได้ปล่อยผลงานเพลงออกมามากมาย จนกระทั่งในปี 2021 สมาชิกของวง GOT7 จะออกจากค่าย JYP โดยงาน Golden Disc Awards ครั้งที่ 35 เป็นกิจกรรมสุดท้ายของวง หลังจากนั้นในวันที่ 11 มกราคม ปี 2021 ทางค่ายก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าสมาชิกทั้งหมดของ GOT7 จะออกจากค่ายต้นสังกัด เนื่องจากสัญญาของพวกเขาจะหมดลงในวันที่ 19 มกราคม ปี 2021 หลังจากที่ ยองแจ หมดสัญญาจากต้นสังกัดเดิม เขาก็ได้เซ็นสัญญากับค่าย Sublime Artist Agency เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021

      สำหรับผลงานการแต่งเพลงของ ยองแจ นั้น ได้ใช้นามปากกาว่า Ars และเริ่มต้นแต่งเพลงและเขียนเนื้อร้องในปี 2016 โดยผลงานเพลงแรกที่แต่งมีชื่อว่า Rewind โดยเป็นเพลงที่อยู่ในมินิอัลบั้ม Flight Log Departure ของวง GOT7 ส่วนผลงานภาพยนตร์ก็มี A Stray Goat (2017), A Christmas Carol (2022), Yaksha: Ruthless Operations (2022) และ High Five (TBA) และผลงานละครเวทีเรื่อง Midnight Sun (2021) ซึ่งดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น A Song to the Sun โดยเขาจะรับบทนำชื่อฮารัม

     หลังจากที่เป็นศิลปินเดี่ยว ยองแจ ก็ได้ปล่อย Mini อัลบั้มแรก Colour from Ars เพลงไตเติล Vibin และ Mini อัลบั้มสอง Sugar เพลงไตเติล Sugar และยังมีซิงเกิลสุดพิเศษ IRREPLACEABLE ที่ ยองแจ ร้องรวมกับ ฟักกลิ้งฮีโร่ และเดอะทอยส์

ขอบคุณภาพจาก IG ยองแจ

ยองแจ เป็นศิลปินที่มีความสามารถโดดเด่นทั้งการร้องและเต้น และยังเป็นหนุ่มอารมณ์ดี รอยยิ้มที่แสนน่ารัก อีกทั้งยังมีมุมน่ารักและเอาใจใส่คนรอบข้าง จึงทำให้ยองแจเป็นที่รักของแฟนๆ ปล่อยผลงานเพลงอะไรออกมา เหล่าอากาเซ่ก็พร้อมจะให้การสนับสนุนอย่างท่วมท้น

     สำหรับอากาเซ่เตรียมกรี๊ดและฟินไปกับหนุ่มยองแจและแบมแบม GOT7 จะกลับมาเสิร์ฟความสนุกให้อากาเซ่ชาวไทย โดยยองแจและแบมแบมจะร่วมกันเป็นพิธีกรในงาน Seoul Music Awards ครั้งที่ 33 งานประกาศรางวัล Seoul Artist Awards ครั้งที่ 33 จะจัดขึ้นที่สนามกีฬาแห่งชาติราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ ประเทศไทย ในวันที่ 2 มกราคม 2567 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่งานมอบรางวัลประจำปีจะจัดขึ้นนอกประเทศเกาหลีใต้ สำหรับอากาเซ่ชาวไทยเตรียมเก็บเงินและวอร์มนิ้วกดบัตรกันไว้ได้เลย