วันที่ 30 สิงหาคม 2564 ที่จังหวัดพิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช รองจเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจ (สบ 8), พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6, พล.ต.ต.ภูริวัจย์พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 6 สำนักงานจเรตำรวจ , พ.ต.ต.เจนกมล คำนวล รองผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ, พ.ต.ท.พงษ์ปกรณ์ พิพัฒนสมพร รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการกองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ ได้ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมการสอบสวนวินัย ร่วมกับคณะกรรมการของตำรวจภาค 6 พร้อมพนักงานสอบสวนของตำรวจภาค 6 อีก 4 นาย ที่ตำรวจภูธรภาค 6
หลังได้รับการแต่งตั้ง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล กับพวกรวม 7 คน กรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยร้ายแรง ถูกดำเนินคดีอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
ตามคดีอาญาของสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ เลขที่ 1164/2564 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 ดังกล่าว ไปขออำนาจศาลฝากขังยังศาลจังหวัดนครสวรรค์ โดยศาลได้อนุญาตให้ฝากขังและส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครสวรรค์ และต่อมาได้ย้ายที่คุมขังไปยังเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกนั้น กรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งมีอำนาจเช่นเดียวกับพนักงานสอบสวนตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าทำการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 คนดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 86, 93 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2547 ข้อ 17 เพื่อวางแนวทางในการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล “ผกก.โจ้” กับพวกรวม 7 คน ว่าจะดำเนินการอย่างไร
ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงบ่ายคณะกรรมการทั้งหมดจะร่วมกันเดินทางไปที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลกเพื่อเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ ผู้กำกับโจ้ กับพวกอันเป็นขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยต่อไป