วันนี้ (9 เมษายน 2564) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์  โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) เปิดเผยว่า ในเทศกาลสงกรานต์ 2564 ที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องถึง 6 วัน มีการจัดงานตามประเพณี เป็นโอกาสที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของประชาชน ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ระดมกำลังตำรวจ ปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความสะดวก ดูแลเส้นทางการจราจรในเส้นทางหลัก ให้มีความคล่องตัว ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ และลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19   เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน ในการระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม ผบ.ตร. เน้นย้ำให้มีการบังคับใช้กฎหมาย จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบ่อนการพนัน ยาเสพติด การลักลอบเข้าเมือง และสถานบันเทิง สถานบริการต่างๆ ที่ปิดเกินกฎหมายกำหนด หรือปล่อยให้มีการมั่วสุมก่อความเดือดร้อน รำคาญ   โดยกำหนดห้วงเวลาปฏิบัติก่อนเทศกาลฯ ระหว่างวันที่ 7-11 เมษายน 2564 ส่วนในห้วงเทศกาลฯ เน้นการจัดชุดสายตรวจร่วม ชุดเคลื่อนที่เร็ว  ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนได้ฉลองตามประเพณี ภายใต้มาตรการทางสาธารณสุข  เน้นการตรวจตรา การจัดกิจกรรมสงกรานต์ให้เป็นไปตามที่รัฐบาล (ศบคฺ.) กำหนด เช่น งดรวมกลุ่มหมู่มาก งดประแป้ง สาดน้ำ และจัดการแสดงต่างๆ เป็นต้น  

นอกจากนี้ในขณะที่ประชาชนเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ไม่อยู่บ้านหรือที่พักเป็นเวลาหลายวัน เพื่อเป็นการสร้างความสบายใจและลดความกังวลให้กับประชาชน  ผบ.ตร. ได้สั่งการสถานีตำรวจทั่วประเทศ ดำเนินการ โครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน (ฝากบ้าน 4.0 ) ระหว่างวันที่ 9-18 เมษายน 2564 เพื่อเสริมการปฏิบัติในการป้องกันอาชญากรรม  ประชาชนสามารถขอใช้บริการได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง   หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น OBS I SERVICE ฟรีผ่านทางมือถือได้ทั้งระบบ Android และ iOS เพื่อขอฝากบ้านกับตำรวจได้ตลอด 24 ชม. ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ในขณะนี้

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวส่วนการอำนวยความสะดวกการจราจร  ได้สั่งการเน้นย้ำการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และขอความร่วมมือจากประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร และข้อกำหนดต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว และส่วนรวม กวดขันการกระทำผิดใน 10 ข้อหาหลัก โดยเน้นข้อหา เมาแล้วขับ ขับรถใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด และขับรถย้อนศร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักการเสียชีวิตบนท้องถนน ทั้งนี้ ให้มีการตั้งจุดตรวจร่วมและบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในการปฏิบัติ โดยให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติในจุดตรวจร่วม และจุดบริการประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่ทางสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  รักษาระยะห่าง ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์หรือสบู่ เมื่อมีการสัมผัสตัวคน หรือสิ่งของ  สำหรับจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่ต้องสวมถุงมือในขณะปฏิบัติงาน และเปลี่ยนหลอดเป่าทุกครั้ง ให้การปฏิบัติอยู่ในสายตาประชาชน เพื่อความโปร่งใส ป้องกันการถูกร้องเรียน หรือสร้างความเข้าใจผิดในขณะปฏิบัติหน้าที่

กรณีข่าวการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในห้วงเวลานี้ ที่คาดว่าอาจมีสาเหตุมาจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ บช.น. ผบ.ตร.ได้สั่งการให้พื้นที่ตรวจสอบ หาพยานหลักฐาน และรายงานผลให้ทราบโดยเร่งด่วนแล้ว หากพบการกระทำผิด หรือมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามระเบียบกฎหมายต่อไป  นอกจากนี้ยังได้กำชับไปยังผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยที่มีสถานบันเทิง สถานบริการต่างๆ ในพื้นที่ลงไปกำกับ ควบคุม ดูแล อย่างใกล้ชิด รวมถึงบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อมิให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก  

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจพบว่าเป็นโควิด-19

อัพเดตวันที่ 9 เมษายน 2564 รวมจำนวน 63 นาย ประกอบด้วย บช.น. 31 นาย, บช.ภ.1 3 นาย, บช.ภ.2 2 นาย, บช.ภ.5 8 นาย, บช.ภ.7 2 นาย, บช.ก. 2 นาย, สตม. 7 นาย, รพ.ตร. 1 นาย, บช.ปส. 1 นาย, บช.ส. 1 นาย, สทส. 1 นาย, สง.ก.ตร. 1 นาย วน. 1 นาย, บช.สอท. 1 นาย, สพฐ.ตร. 1 นาย ทั้งหมดเข้ารับการรักษาที่ รพ. แล้ว ส่วนผู้สัมผัส ผู้ใกล้ชิด ได้มีการตรวจหาเชื้อ และกักตัวตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดแล้วเช่นเดียวกัน และเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อนี้ ผบ.ตร.ได้เน้นกำชับให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสถานีตำรวจ และหน่วยงานบริการประชาชน รวมทั้งให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวแก่ประชาชนด้วย  

ส่วนหน่วยงานที่มีที่ตั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปรับกำลังครึ่งหนึ่งปฏิบัติงานที่บ้าน ( Work From Home )  โดยยึดหลัก ลดคน แต่ไม่ลดงานและประสิทธิภาพของงาน  ส่วนหน่วยงานบริการประชาชน ให้ปรับกำลังตามความเหมาะสม  โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญในลำดับแรก

“มาตรการการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว เป็นสิ่งที่ผบ.ตร.เน้นย้ำกำชับให้มีการปฏิบัติอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม และประชาชนสามารถร่วมปฏิบัติกับทางตำรวจได้ โดยสามารถแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย หรือขอความช่วยเหลือ ไปที่หมายเลข 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในเทศกาลสงกรานต์นี้ ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย และปลอดโควิด-19 ตำรวจทุกพื้นที่มีความพร้อมในการดูแลประชาชน” โฆษก ตร. กล่าว