กระสุนปืน M16 จำนวน 6 พันนัด พร้อมระเบิดมือ 155 ลูก
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานว่า เมื่อ เวลา 18.00 น. วานนี้ (1 เม.ย.64) ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.), พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย (ผบก.เชียงราย), พ.ต.อ.มานพ เสนากูล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย (รอง ผบก.เชียงราย) พร้อม พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช ผกก.สภ.แม่สาย, พ.ต.ท.อนุพันธ์ กันถารัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.แม่สาย, พ.ต.ท.พีรพจน์ ธุรกิจ สารวัตรสืบสวน สภ.แม่สาย ฯลฯ เดินทางมาที่ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดตามผลการตรวจยึดกระสุนปืน จำนวน 6,000 นัด ระเบิดขว้างสังหารบุคคล รุ่น K 75 จำนวน 115 ลูก ที่ ส่งมาจากต้นทาง จ.นครปฐม จ.ชลบุรี และ จ.นครศรีธรรมราช ผ่านทางบริษัทเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง มาลงที่ร้านศักดิ์ฯ บ้านเหมืองแดง ต.แม่สาย อ.แม่สาย โดยมีผู้มารับกล่องพัสดุไปส่งขึ้นรถตู้เตรียมจัดส่งข้ามไปเมืองท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมา ตั้งแต่วันที่ 28-30 มี.ค.ที่ผ่านมา


โดยก่อนหน้า ตำรวจ สภ.แม่สาย ทหาร กกล.ผาเมือง ฝ่ายปกครองแม่สาย ได้จับกุมตัว นายมโนกรณ์ สั่งสอน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ 1 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย อ.แม่สาย คนขับรถกระบะมารับกล่องพัสดุ และ นายทรงศักดิ์ สิริชัยรุ่งเรือง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 870 หมู่ 13 ต.แม่สาย อ.เม่สาย จ.เชียงราย คนขับรถตู้ มารับพัสดุต่อจาก นายมโรกรณ์ พร้อมยึดรถตู้โตโยต้า สีขาวทะเบียน ผต.9161 เชียงราย รถยนต์เก๋งมาสด้า ทะเบียน กฉ-2716 ลำพูน เพิ่มอีก 2 คัน


โดยจับเพิ่มผู้ต้องหาอีก 4 คน คือ 1.) นายภัคเมศร์ กีรติธัญญศิลป์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/135 หมู่ 7 ต.กระตีบ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จับได้ที่โรงเรียนการบิน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม, 2.) นายธีระพล อรัญพฤกษ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 5 ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช, 3.) น.ส.พิชญาภัค หรือ จอย กลองตัน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 420 /1 หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และ 4.) นายชิติพัทธิ์ โชวมณี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/376 หมู่ 8 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม ขณะที่เข้าตรวจค้นในบ้านได้พบอาวุธจำนวนหนึ่ง จึงถูกควบคุมตัวไว้ในพื้นที่เกิดเหตุ เหลือผู้ต้องหา 3 คน นำตัวมาทำการสอบสวนที่ สภ.แม่สาย ในวันเดียวกัน โดยถูกแจ้งข้อหา “มีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียน ไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” โดยเป็นผลจากการขยายผล โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.), ชุดสืบสวน สภ.แม่สาย สืบสวน บก.ภ.เชียงราย, บก.สส.ภ.2 บก.สส.ภ.5 บก.สส.ภ.7 บก.สส.ภ.8


พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า กระสุนปืนและลูกระเบิดที่จับกุมได้ครั้งนี้ ถือเป็นกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดภาคเหนือ เชื่อมโยงกับขบวนการค้าอาวุธสงครามภาคใต้ ลูกกระสุนและลูกระเบิดเป็นของเก่าที่เก็บไว้ในสภาพอย่างดี สามารถใช้การได้ มีเลขล็อตการผลิตชัดเจน แต่ไม่ตรงกับที่หน่วยงานราชการสั่งมาใช้ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับนายทุนและผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง คาดว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการเหลืออีก 3-4 คน ส่วนอาวุธที่จับได้เตรียมส่งไปฝั่งเมียนมา เมืองท่าขี้เหล็ก ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในพม่าหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ และจะเกี่ยวข้องกับคนมีสีหรือไม่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
ต่อมา ตำรวจชุดจับกุมได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 ราย พัวพันคดีขนเครื่องกระสุน 6 พันนัด ลูกระเบิด 115 ลูก เพื่อเตรียมส่งข้ามไปยังประเทศข้างเคียง


ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายคดีค้าอาวุธสงคราม ที่ใช้วิธีการส่งผ่านบริษัทรับส่งพัสดุเอกชน มีที่มาจากต้นทางจังหวัดนครปฐม จังหวัดชลบุรี จังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านมาปลายทางที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งต่อไปให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน


โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28-29 มีนาคม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบลูกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. ที่ใช้กับปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติรุ่น M16 จำนวน 6,000 นัด ลูกระเบิดขว้างสังหารบุคคล รุ่น K 75 จำนวน 115 ลูก ในกล่องพัสดุ จากนั้น ได้ขยายผลไปจับนายมโนปกรณ์ สั่งสอน อายุ29 ปี ผู้ติดต่อขอรับพัสดุ และนายทรงศักดิ์ สิริชัยรุ่งเจริญ อายุ 31 ปี คนขับรถตู้ขนส่งสินค้าไปเมียนมา
โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”


จากการตรวจสอบพัสดุของกลางและสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้ว กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ได้ประสานไปยังกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และภาค 8 ขยายผลนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 4 คนคือ นายชิติพัทธ์ โชวมณี อายุ 31 ปี นายภัคเมศร์ กีรติธัญญศิลป์ อายุ 28 ปี ซึ่งจับได้ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม นายธีรพล อรัญญพฤกษ์ อายุ 28 ปี จับได้ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และนางสาวพิชญาภัค กลองตัน อายุ 32 ปี จับได้ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
โดยผู้ต้องหาที่จับกุมได้เพิ่มมานี้ แบ่งหน้าที่กันเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกส่งของกลางจากพื้นที่ภาคใต้มาที่ภาคกลาง และกลุ่มที่ 2 ส่งของกลางจากภาคกลางไปที่ภาคเหนือ ปลายทางที่อำเภอแม่สาย


พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานโดยตรวจสอบเส้นทางของพัสดุใน 3 จุด คือ จังหวัดชลบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ได้พบหลักฐานที่เชื่อถือได้ กระทั่งศาลได้อนุมัติออกหมายจับ และเมื่อจับกุมตัวได้ ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ว่าเป็นผู้ส่งพัสดุที่พบของกลางจริง
โดยต้นทางของของกลางในเบื้องต้น เชื่อว่า น่าจะนำเข้ามาใช้ในทางราชการ แต่ยังต้องตรวจสอบล็อตนับเบอร์ของระเบิดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนปลายทางจะไปส่งให้กับกลุ่มใดในประเทศเพื่อนบ้านนั้นยังไม่สามารถระบุได้ เจ้าหน้าที่จะได้ประสานข้อมูลกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดต่อไป



