เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 24 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีการเตรียมความพร้อมในการดูแลความเรียบร้อย กรณี กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดทำกิจกรรมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) ทั้งชายและหญิง รวมทั้งเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูงหรือ จีโน่, รถควบคุมผู้ต้องหา, รถเครื่องขยายเสียงและรถดับเพลิงไว้แล้ว แต่บรรยากาศทั่วไปโดยรอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังดูแลความปลอดภัยตามปกติ โดยเฉพาะประตู 1 ติดกับถนนพระราม 1 ยังเปิดให้เข้า-ออกได้ เช่นเดียวกับการจราจร บนถนนพระราม 1 รวมทั้งเส้นทางโดยรอบยังสัญจรได้ตามปกติ
ขณะที่ ห้างสรรพสินค้า ยังไม่มีการแจ้งปิดก่อนเวลา ยังมีประชาชนทั่วไปเดินทางมาใช้บริการ เช่นเดียวกับทางเดินเชื่อมรถไฟฟ้า หรือ สกายวอล์ค ยังเปิดให้บริการ ขณะที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ พบว่า กลุ่มมวลชนทยอยเดินทางเข้าพื้นที่ร่วมชุมนุมแล้วแต่จำนวนยังบางตาเนื่องจากยังไม่ถึงเวลานัดหมาย
เวลา 16.50 น. วันที่ 24 มีนาคม 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณแยกราชประสงค์ก่อนการเริ่มชุมนุมของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยยืนยันว่า การจัดกิจกรรมชุมนุมรวมถึงการตั้งเวทีปราศรัยในวันนี้ ถือว่าทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศห้ามมีการชุมนุมในทุกพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ห้ามจัดกิจกรรมที่มีลักษณะมั่วสุมอันอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแพร่เชื้อโรค จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ยังไม่เดินทางมาร่วมกิจกรรมชุมนุม งดเดินทางมาร่วมกิจกรรม ซึ่งหลังจากนี้หากมีการจัดกิจกรรมชุมนุมแล้วเกิดความไม่สงบ ตำรวจก็พร้อมบังคับใช้กฎหมายทันที
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว สำหรับการข่าวเรื่องพื้นที่ที่จะใช้จัดกิจกรรมชุมนุม ต้องรอดูการชุมนุมหลังจากแกนนำเดินทางมาถึง ส่วนการใช้รถไฟฟ้าบีทีเอส ยังไม่มีการประสานให้ปิดให้บริการ
“จากกรณีที่มีรายงานข่าว ระบุว่า ในวันนี้ผู้ชุมนุมเตรียมสีมาทำกิจกรรม ที่ด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังอยู่ในระหว่างการรอดูสถานการณ์ แต่สิ่งที่ตำรวจกังวล คือ เรื่องการจราจร เพราะเป็นใจกลางกรุงเทพ และจัดกิจกรรมในช่วงที่ประชาชนเลิกงาน”
ส่วนของกรณีสื่อมวลชนโดนลูกหลงจากตำรวจ รอง โฆษกตร. กล่าวว่า ฝากประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชนต้องอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการได้รับความรุนแรง
เมื่อเวลา 20.45 น. วันที่ 24 มีนาคม 2564 ในการชุมนุมซึ่งจัดขึ้นโดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ นายอรรถพล หรือครูใหญ่ บัวพัฒน์ น.ส.ภัสราวลี หรือมายด์ ธนกิจวิบูลย์ผล และ น.ส.เบญจา อะปัญ ให้สัมภาษณ์หลังปราศรัยตั้งแต่ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา
นายอรรถพล กล่าวว่า หากพรุ่งนี้ถูกส่งตัวฝากขังระหว่างการพิจารณาคดีการชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมนี วันนี้ก็ถือว่าได้พูดในสิ่งที่จะไม่ได้พูดในอนาคต โดยจะเรียกขวัญกำลังใจของประชาชนกลับมา การชุมนุมวันนี้คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีแกนนำ คนจะมากจะน้อย ก็ยังมีคนสู้ ดาวบนท้องฟ้ามากมายหลายดวง พวกตนอาจมีแสงจับจ้อง แต่เชื่อว่าหากวันหนึ่งพวกตนถูกขัง ก็จะมีดาวดับล้านกระจ่างแสงออกมาพร้อมกัน ขอให้เจ้าหน้าที่ยุติความรุนแรง ขอให้คำนึงถึงความเป็นมนุษย์ ตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งประชาชน แต่คนสั่งต่างหากที่ใช่ เราต้องการให้รัฐบาลยุติบทบาท แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันให้เป็นประชาธิปไตยอย่างที่ควรจะเป็น

น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า หากศาลตัดสินว่ามีความผิดและไม่ให้ประกันตัว ก็ต้องเปลี่ยนที่ต่อสู้ไปอยู่ในเรือนจำ โดยแกนนำและแนวร่วมในคดีนี้ทั้ง 13 คน ยังจะสู้เหมือนเดิม เชื่อมั่นว่าการต่อสู้ข้างนอกไม่แผ่วลงแน่ เพื่อนๆ ทุกคนเตรียมความพร้อมไม่ว่าผลการตัดสินจะเป็นอย่างไร ตนก็ไม่กังวล แต่เชื่อว่าประชาชนจะตัดสินว่าจะดำรงอยู่อย่างไรต่อ หากผลตัดสินว่าพวกตนต้องถูกจำคุก เท่ากับว่าความยุติธรรมไม่หลงเหลือแล้ว เพราะการต่อสู้ไม่ใช่ของคนกลุ่มเดียว แต่เป็นของประชาชนทุกคนในประเทศนี้ เราควรต้องส่งเสริมกันและกันให้ทุกฝ่ายออกมาต่อสู้
ด้าน น.ส.เบญจา กล่าวสั้นๆ ว่า วันนี้เราต้องการเปิดพื้นที่ชุมนุมเปิดเวทีเล็กย่อยอย่างสันติ และวันนี้เราได้ยึดราชประสงค์กลับมาแล้ว
ต่อมา น.ส.เบญจา ขึ้นเวทีปราศรัย ก่อนประกาศยุติการชุมนุม ในเวลา 21.05 น.



