หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมตร.นครบาล จัดกำลัง คุมเข้ม! ศาลอาญา-เรือนจำธนบุรี-เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

ตร.นครบาล จัดกำลัง คุมเข้ม! ศาลอาญา-เรือนจำธนบุรี-เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

โฆษก นครบาล ‘พล.ต.ต.ปิยะ’ เผยเจอกระเป๋า ‘โตโต้’ ใต้เบาะรถ ด้าน ตร. ที่ถูกทำร้าย ‘สร้อยพระ-มือถือ’ หายขณะเกิดเหตุ

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนคบาล (รอง ผบช.น.) และโฆษก บช.น. เปิดเผยคดีกลุ่มผู้ชุมนุมชิงตัวนายปิยรัฐ หรือโต้โต้ จงเทพ บริเวณห้างเมเจอร์รัชโยธิน ว่า พนักงานสอบสวนดำเนินคดีเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.) กรณีนายปิยรัฐ หรือโตโต้ พร้อมพวก 18 นาย ถูกจับกุมข้อหาสมคบกัน 5 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด และมั่วสุมเพื่อเตรียมการก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง การกระทำผิดซึ่งหน้าไม่จำเป็นต้องมีหมายจับ ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค รวมทั้งหมด 4 ข้อหา

2.) กลุ่มผู้ต้องหาถูกจับหลบหนีการควบคุมของเจ้าพนักงานสอบสวนสืบสวนคดีอาญามีความผิดตาม 4 ข้อหาเช่นเดียวกับ 18 คนแรก หลังปรากฏตัวที่ สน.พหลโยธิน ได้ปล่อยตัวไปก่อน ก่อนจะพิสูจน์ทราบว่าบุคคลทั้ง 27 คน เป็นบุคคลที่หลบหนี จากนั้นจะออกหมายเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ไม่ได้มาต้องออกหมายเรียกมาเช่นกัน, 3.) กลุ่มที่ปรากฏทุบทำลายรถควบคุมขังผู้ต้องหา มีความผิดตามข้อหาร่วมกันช่วยเหลือผู้ต้องหาให้หลุดพ้นไปจากการดูแลของเจ้าพนักงาน ผู้ชุมนุมคนใดทุบทำทรัพย์สินและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีความผิด และความผิดทำให้เสียทรัพย์

4.) มีกลุ่มบุคคลทุบทำลายแนวรั้วศาลอาญาและนำสิ่งต่างๆ มาเผา รวมทั้งทรัพย์สิน บุกรุกพื้นที่ราชการศาลอาญา และสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นความผิดบุกรุกสถานที่ราชการในเวลากลางคืน และความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล รวมทั้งตรวจสอบความผิด ม.112, 5.) กลุ่มผู้ชุมนุมอื่นๆ การชักชวนผ่านสื่อโซเชียลมีเดียจัดให้มีการชุมนุมและสนับสนุนให้มีการชุม ตลอดจนมาร่วมชุมนุมถือว่ากระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.ควบคุมโรค

และ 6.) กลุ่มบุคคลใช้ลูกเหล็กหรืออาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีรถกระบะ 1 คัน รถหกล้อ 2 คัน รถบัส 3 คัน ของ บช.ตชด.ขณะกลับจากการดูความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ศาลอาญา จากการตรวจสอบเชื่อว่าถูกยิงจากอาวุธปืน ถือว่าเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า

พล.ต.ต.ปิยะ  กล่าว ส่วนทรัพย์สินที่นายโตโต้แจ้งว่าหายไปในเหตุชิงตัวผู้ต้องหานั้น ตำรวจเจอทรัพย์สินนายโตโต้แล้วซ่อนไว้ใต้เบาะนั่งรถ คาดน่าจะครบถ้วนและอายัดเป็นของกลางในคดี หากสูญหายตำรวจก็ต้องรับผิดชอบ และมีตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บแจ้งว่าสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง และโทรศัพท์มือถือถูกปล้นทรัพย์ไป เบื้องต้นสอบปากคำแล้วที่ รพ.ตร. เมื่อผู้เสียหายดีขึ้นออกจาก รพ.จะแจ้งไปความดำเนินคดี “ส่วนการชุมนุมช่วงเย็นวันที่ 9 มีนาคม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)  สั่งการตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบจัดกำลังควบคุมฝูงชนไม่ให้กระทบประชาชนทั่วไป จัดกองร้อยควบคุมฝูงชนไว้ดูแลที่ศาลอาญา เรือนจำพิเศษธนบุรี และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร การรับมือการชุมนุมยืนยันว่า มีกำลังดูแลพื้นที่เพียงพอ การประกาศชักชวนชุมนุมที่ศาลอาญาและสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ ขอแจ้งเตือนว่าเป็นพื้นที่ กทม.ห้ามชุมนุมฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค ไม่ว่านั่งกินหมูกระทะ หรือมีคนจำนวนหนึ่งแล้วปิดการจราจร ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นการทำผิดกฎหมาย” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img