วันที่ 6 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นำกำลังเข้าปฏิบัติการจับกุม นายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี และ นางสาวอาณดา ปิยะรักษ์ อายุ 18 ปี 2 สามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ในคดีฉ้อโกงประชาชนฯ หลังประกาศขายป้ายทะเบียนเลขสวยผ่านโซเชียลมีเดีย แล้วหลบหนีมากบดานอยู่ที่คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ใน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นำหมายศาลมาติดตามจับกุมตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้ตำรวจจับกุม และขู่จะฆ่าตัวตายพร้อมกัน โดยมีภรรยาอีกคน ซึ่งเป็นแม่ของลูกสาววัย 3 ขวบ และหลบหนีมาอยู่ด้วยกันในห้องพักคอนโดฯ ดังกล่าว
กระทั่งเมื่อช่วงสาย วันนี้ (6 มี.ค.) หลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษให้แม่ของฝ่ายหญิง และญาติที่เดินทางมาจากจังหวัดระนอง เคาะห้องพักเลขที่ 310 ที่ผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวอยู่ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำกำลังจู่โจมเข้าไปภายในห้องพักด้วยการพังประตู พบนายสุเมธ ครองวงศ์ นางสาวอาณดา ปิยะรักษ์ ผู้ต้องหา 2 คน และ นางสาววิชุดา เสียมศักดิ์ อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นภรรยาอีกคนของนายสุเมธ และเป็นแม่ของลูกสาววัย 3 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงภายในห้อง จึงประสานให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภายในห้องพัก พบจดหมาย ซึ่ง นายสุเมธ ได้เขียนถึงแม่ และพี่ชาย ข้อความระบุ “ถึงแม่และพี่เมท พี่เมทรักแม่มากๆ เลย รักยายด้วย ฝากดูแลมิ้งกับสมายด้วย อย่าเสียใจเยอะ ส่วนยายก็อย่าเสียใจเยอะ ดูแลสมายดีๆ เมทรักทุกคนมากๆ เลย ดูแลกันดีๆ นะ” โดยสภาพศพที่พบนั้น ทั้งสามคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 99 มม. เข้าที่ศีรษะ นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง
ด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) ซึ่งเดินทางมาบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตัวเอง ให้สัมภาษณ์ว่า คาดว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายสุเมธ โดยจากการสอบสวนพบว่า ทั้งนางสาวอาณดา และนางสาววิชุดา เป็นภรรยาของนายสุเมธ ทั้ง 2 คน โดยนางสาววิชุดา เป็นแม่ของลูกสาววัย 3 ขวบของนายสุเมธ โดยนายสุเมธ และนางสาวอาณดา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ พื้นที่ตำรวจนครบาล ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
“คาดว่าผู้ต้องหาจะยิงตัวเองเสียชีวิต ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) โดยผู้ต้องหาได้เขียนจดหมายสั่งเสียญาติไว้ด้วย ฝากดูแลลูก ซึ่งจากการพูดคุยกับญาติเบื้องต้น ทราบว่า นายสุเมธ มีนิสัยค่อนข้างก้าวร้าวและตัดสินใจอะไรค่อนข้างชัดเจน โดยผู้หญิงทั้ง 2 คนก็ยินยอมที่จะอยู่กับนายสุเมธ ไม่ยอมออกมาตั้งแต่ที่ประสานญาติมาเจรจา เบื้องต้นญาติไม่ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่แรก” พล.ต.ท.ประจวบ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากการสืบสวนของเจ้าหที่พบว่า นายสุเมธ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เป็นผู้บ่งการโพสต์ขายป้ายทะเบียนเลขสวยผ่านโซเชียลมีเดีย โดยมีนางสาวอาณดา เป็นคนตระเวนกดเงินที่มีผู้เสียหายโอนมาให้ ทั้งนี้ มีผู้เสียหายกว่า 20 ราย ที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสวน กระทั่งมีการขออำนาจศาลออกหมายจับ คาดว่ามีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1.1 ล้านบาท และเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า นายสุเมธ จะก่อเหตุมานานแล้วซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมดอีกครั้ง เนื่องจากผู้ต้องหาใช้ชีวิตค่อนข้างหรูหรา มีรถยนต์หรูราคาแพงหลายคัน
