ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค​ 1​ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ​ผบ.ตร.พร้อมด้วยพล.ต.ท. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต. สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1, พันตำรวจเอก วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบก.สส.ภ.1,พล.ต.ต.ชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ลพบุรี, พ.ต.อ.ปราถนา แผ่นผา รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี, พ.ต.อ.พุฒิพัฒณ วรรธน์จิรัฐ ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี, พ.ต.อ.ณัชภูมิ วรรณวิไล ผกก.สภ.ท่าหิน​ และตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ร่วมกันทำการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 820 มัด รวมเป็นยาบ้าทั้งสิ้นประมาณ 1,640,000 เม็ด

ด้วยเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด , กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจ ภูธรภาค 1 และตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ร่วมกันจับกุม นายมนัส อินทร์อยู่ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/4 หมู่ที่ 1 ต.ตะลุง อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,063,500 เม็ด ได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ 6/4 หมู่บ้านตะลุง หมู่ที่ 1 ต.ตะลุง อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี นำส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ซึ่งอยู่ระหว่าง สืบสวนขยายผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว และได้สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหา ที่หลบหนีไประหว่างการเข้าจับกุมคือนายนริศพงษ์ หรือนิว อินทร์อยู่ อยู่บ้านเลขที่ 302 หมู่ 7 ต.เขาพระงาม จ.ลพบุรีซึ่งเป็นบุตรชายของผู้ต้องหา

ต่อมาในวันที่ 2 เม.ย.2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้ร่วมกันทำการสืบสวน ทราบว่า นายกฤษณ์ วงษ์ปาน ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายในพื้นที่ เป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ของผู้ต้องหา ที่ได้จับกุมไปแล้วข้างต้น และ ได้เช่าห้องพักอาศัย อยู่ที่ ห้องเช่าเลขที่ 116 ม.7 ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี และจากการสืบสวน ทราบว่านายกฤษณ์ วงษ์ปาน ได้ซุกซ่อนยาเสพติดไว้จำนวนมากที่บริเวณในห้องพักดังกล่าว จึงได้ร่วมกันนำกำลัง เข้าทำการตรวจค้น ห้องพักดังกล่าว และจากการตรวจค้น พบ ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน​ 820 มัด รวมเป็นยาบ้าทั้งสิ้นประมาณ 1,640,000 เม็ด จึงได้ตรวจยึดไว้ เพื่อนำส่งพนักงานสวบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าหิน และทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จะได้ทำการสืบสวนขยายผล เร่งรัดจับกุมผู้กระทำผิด เครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว เพื่อนำตัวมา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป