เมื่อวานนี้ (28 มี.ค) นายพชร นริพทะพันธุ์ สมาชิกกลุ่มคนรุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค ‘พชร นริพทะพันธุ์‘ กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศไทย ว่า อยากจะชวนทุกคนมาคุยเรื่อง ความเป็น ‘พีระมิด’ ในสังคมไทย ถ้านึกภาพตามเราจะเห็นว่า พีระมิด นั้นมีรูปทรงที่มีฐานกว้าง ต่อชั้นขึ้นไปเป็น ‘ยอดแหลม’ จุดสูงสุดแห่งความสำเร็จคราวนี้เราลองเอาภาพความเป็นไปในสังคมเศรษฐกิจไทยมาใส่ ตนพบว่า พีระมิดของไทยเป็น ‘พีระมิดเดี่ยว’ กล่าวคือ เราเป็นระบบเศรษฐกิจที่มีโครงสร้างพื้นฐานเดียว เติบโตจากฐานของทุนไม่กี่บริษัท พูดแบบบ้านๆ พอมีเพียงไม่กี่บริษัท บุคลากรที่อยากจะก้าวหน้าก็ต้องทำงานแย่งกัน เพื่อก้าวสู่จุดที่สูงกว่า
นายพชร กล่าวต่อไปว่า จำนวนคนเยอะ ตำแหน่งน้อย เกิดภาพเป็น ‘คอขวด’ กระจุกตัว ยากที่จะมีโอกาสแตกหน่อพีระมิดของตนเอง ส่งผลให้เกิดระบบอุปถัมภ์ และวัฒนธรรมคอร์รัปชั่น เพื่อเลื่อนตำแหน่งในพีระมิดของตนเองให้สูงขึ้น ภาพลักษณะนี้พิสูจน์ว่า เป็นไปได้สูงที่บุคคลเหล่านี้จะหมดความคิดเชิง Innovative และกลายเป็น deadwood ยากที่ก้าวหน้า ถ้าไม่แข็งจริง และอยู่ไปวันๆ คำถามคือ หากโครงสร้างเศรษฐกิจเรามีพีระมิดหลายอัน เราย่อมมีบุคลากร ที่จะเป็น ‘หัวพีระมิด’ ได้มากขึ้น โอกาส และทางเลือกการแตกหน่อ ‘พีระมิดของเรา’ ก็มีมากขึ้นตามไป ในแง่เศรษฐกิจ ผู้บริหารระดับกลาง ถึงระดับสูงที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลต่อการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เราใช้จ่ายมากขึ้น ภาษีอัตราก้าวหน้าก็มากขึ้น เรื่องราวพวกนี้ย่อมจุนเจือไปถึงการพัฒนาศักยภาพในระบบอื่นๆ ทั้งการศึกษา และสาธารณสุข ในกรณีที่เราต่างมีความโปร่งใสกันด้วย
“ผมเชื่อว่า ถึงเวลาที่สังคมไทย จะให้โอกาส พื้นที่ เพื่อให้ประชาชน สามารถแตกหน่อ ‘พีระมิด’ ของตนเอง นัยความหมายนี้ย่อมหมายถึง ภาคีต่างๆต้องส่งเสริม แม้อาจไม่เห็นผลในทันตา แต่มันจะก้าวไปอย่างมีเสถียรภาพ ได้สัดส่วน ลดความเสี่ยงจากการผูกขาดของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน หรือทอง หากหมายถึงอำนาจการต่อรองของคนเล็กคนน้อยในสังคมนี้ด้วย” นายพชร กล่าว
[fb_pe url=”https://www.facebook.com/pachara.narip/posts/2081715442053199″ bottom=”30″]