ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนขบวนชุมนุมมาหน้าบก.ทบ.ในช่วงที่ผ่านมาว่า กลุ่มดังกล่าวมีการชุมนุมมาอย่างต่อเนื่อง ในทุกสัปดาห์ตั้งแต่ช่วงเดือนก.พ.ถึงปัจจุบัน ซึ่งล่าสุดก็มีการเคลื่อนมวลชนมายังกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งเราก็เข้าใจดีว่าเงื่อนไขที่เรียกร้องให้กองทัพแยกออกมาจาก คสช. คงเป็นเงื่อนไขที่เสนอขึ้นมา แต่ความต้องการจริงๆ คือ การเคลื่อนย้ายมวลชนไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านความมั่นคง ดูแลอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย ในห้วงเวลาดังกล่าว ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า แต่สิ่งที่คงอยู่ คือความผิดตามกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก ต้องดำเนินการไป และมีผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ กระบวนการตามกฎหมายเมื่อเดินหน้าไปแล้ว ก็หยุดไม่ได้ต้องเดินตามนั้น ซึ่งทางแกนนำคงจะทราบว่าต้องเผชิญอะไรบ้าง และคงไม่กังวล ท้ายที่สุดก็มีคนเข้ามาดูแลอยู่เบื้องหลัง ก็ดำเนินการไป
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนห่วงใย อยากฝากเป็นข้อคิด ผู้ที่ตามขบวนมาที่ไม่ใช่แกนนำ เพราะช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ได้สั่งการให้ ศูนย์ปรองดองกองทัพบก ไปดูแลผู้ต้องหาที่ต้องคดีทางการเมือง ที่ไม่ใช่แกนนำ ซึ่งบุคคลเหล่านี้แห่ตามสถานการณ์ ไปช่วยเหลือเพื่อนในบางเรื่องที่ทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย มีการตัดสินจำคุกหลายปี ครอบครัวเดือดร้อน นายกฯก็สั่งการให้ศูนย์ปรองดองลงไปแก้ปัญหา โดยร่วมกับกระทรวงยุติธรรม จัดทีมให้คำแนะนำปรึกษา และดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงยุติธรรมจนได้รับการพักโทษมาแล้วหลายรายและขณะนี้ก็ยังดำเนินการช่วยเหลืออยู่
“ผมยืนยันว่าบุคคลเหล่านี้น่าเห็นใจ เพราะไม่ได้มีอุดมการณ์ เพียงแต่ต้องการช่วยเพื่อน หรือไปฟังการปลุกระดมแล้วมีอารมณ์ร่วมขึ้นมาจึงเข้าไปสู่กระบวนการตรงนี้ ผมก็อยากจะฝากไว้ว่า เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ก็ไม่มีใครดูแล หรือมาช่วยเหลือสุดท้ายครอบครัวก็แตกแยก ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์ปรองดองกองทัพบกก็ช่วยเหลือไปแล้วหลายราย ขณะนี้ก็กำลังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง ขอฝากไว้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ผมไม่ห่วงแกนนำ” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวเพิ่มว่า ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานความมั่นคงตรวจสอบว่ามีกลุ่มการเมืองหนุนหลังการเคลื่อนไหวกลุ่มคนอยากเลือกตั้งหรือไม่ รวมถึงการสนับสนุนเส้นทางการเงิน แต่ปัจจุบัน ทุกอย่าง ดูเลื่อนลอย ข้อเรียกร้องก็เลื่อนลอย และไม่มีเงื่อนไขอะไร เพียงแต่ต้องการเคลื่อนขบวน ซึ่งปัญหาคือความเดือดร้อนของประชาชน และจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งเราก็ระมัดระวัง ฝ่ายความมั่นคงยืดหยุ่นในทุกเรื่อง เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายต่อส่วนรวม
พล.อ.เฉลิมชัย กล่างทิ้งท้ายว่า ส่วนความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนไหวไปถึงเดือนพฤษภาคมเพื่อก่อหวอด ให้มีการเลือกตั้งในปีนี้นั้น ก็ถือเป็นแนวความคิดของกลุ่มคนเหล่านี้ แต่จะมีประชาชนไปร่วมการชุมนุมมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็สุดแล้วแต่ด้วยเหตุและผล คิดว่าในเวลานี้บ้านเมืองต้องการความสงบและนำไปสู่ การเลือกตั้งตามที่นายกฯได้ระบุไว้