หน้าแรกการเมืองมติครม.จัดเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ

มติครม.จัดเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ครม.มีมติเห็นชอบให้มีการเลือกตั้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจากประกาศคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง อบจ. กทม. มีอำนาจต่อเนื่อง หลังหมดวาระเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประชุมเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งแล้ว โดยกระทรวงมหาดไทยได้เตรียมข้อมูลทะเบียนราษฎร์ไว้ทั้งหมดแล้ว รวมไปถึงให้มีการแบ่งเขตการเลือกตั้งรวมหมู่บ้านที่มีจำนวนประชากรไม่เกิน 25 คนไว้รวมกัน รวมถึงมีการจัดเตรียมงบประมาณปี 2564 ไว้สำหรับการเลือกตั้งแล้ว

ด้าน กกต.ได้มีการเตรียมระเบียบ และแบ่งเขตการเลือกตั้งครบทุกหน่วยและประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา รวมไปถึงอบรมผู้อำนวยการเลือกตั้งในระดับจังหวัดและอำเภอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี ได้มีการเห็นชอบให้มีการเลือกตั้ง อบจ.ก่อน ตามระเบียบ ที่ครม.จะต้องทำหนังสือแจ้งไปยัง กกต. เพื่อให้กำหนดวันเลือกตั้งตามกรอบระยะเวลา 60 วัน ตามความเหมาะสม

นอกจากนี้ นายอนุชา ยังกล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้ไปตรวจราชการที่แหลมฉบัง ซึ่งได้ดูความพร้อมตลอดจนแนวทางเชื่อมแหลมฉบังเข้ากับภูมิภาคอื่น ๆ เช่น โครงการแลนด์บริด ทะเลบก และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางที่จะเปิดให้นักลงทุนเข้ามาในประเทศ หรือให้นักลงทุนที่ได้ลงทุนไปแล้ว เดินทางเข้ามาดูความคืบหน้าของโครงการได้ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.63) จะมีการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. ซึ่งเชื่อว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงประเด็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่จะมีสิทธิ์เข้ามาพำนักในประเทศ

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการจัดงาน JOB EXPO ว่า ประสบความสำเร็จ และจะมีการจัดขึ้นอีกโดยครั้งต่อไปอาจเพิ่มจาก 3 วัน เป็น 5 วัน ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับเรื่องการกำจัดขยะบนเกาะใหญ่ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงมหาดไทยดูแลเพื่อหาแนวทางกำจัดขยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินกู้ เพื่อใช้ในโครงการ หนึ่งตำบล หนึ่งมหาวิทยาลัย ที่เป็นโครงการภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงอุดมศึกษาฯ โดยมอบหมายให้มหาวิทยาลัยของรัฐทั่วประเทศเป็นหน่วยงานดูแลเศรษฐกิจระดับตำบล เข้าไปช่วยทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคประประชาชน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจระดับพื้นที่ พัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิต ความปลอดภัยในชุมชนโดยในระยะแรกจะดำเนินการใน 3,000 ตำบล 73 มหาวิทยาลัย ใช้งบประมาณ 10,629 ล้านบาท โดยจะมีการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงนักศึกษา ตั้งเป้าการจ้างงานไม่น้อยกว่า 6 หมื่นคน

โดยเป้าหมายในปีแรก ตั้งเป้ายกระดับตำบลที่มีความพร้อมสูงไปสู่ระดับความยั่งยืน 750 แห่ง ส่วนที่สองยกระดับตำบลที่มีความพร้อมปานกลางไปสู่ระดับพอเพียง 1,500 ตำบล และส่วนที่สาม ตำบลที่มีความพร้อมระดับต่ำ หรือยากลำบากไปสู่การพึ่งพาตนเองได้ อีก 750 ตำบล โดยกำหนดระยะเวลา 1 ปี พร้อมจ้างงานประชาชนในพื้นที่ๆว่างงานและไม่ได้รับค่าจ้างจากหน่วยงานอื่นๆ ในอัตรา 9,000 บาทต่อเดือน บัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 3 ปีที่มีความรู้ความสามารถตรงต่อภารกิจ 15,000 ต่อเดือน ทั้งนี่ผู้ที่อยู่ระหว่างการศึกษา อาชีวะศึกษา และมีความความรู้ความสามารถที่ตรงต่อภารกิจ อัตรา 5,000 ต่อเดือน

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img