หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"ผบ.ตร" แถลงคดีน้องชมพู่ ฟันธงไม่ได้เดินขึ้นไปเสียชีวิตเอง แต่ถูกบุคคล ที่รู้จักกันทำให้เสียชีวิต

“ผบ.ตร” แถลงคดีน้องชมพู่ ฟันธงไม่ได้เดินขึ้นไปเสียชีวิตเอง แต่ถูกบุคคล ที่รู้จักกันทำให้เสียชีวิต

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ที่สโมสรตำรวจ ถนนนวิภาดีพลตํารวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโท ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4, พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 และ พันตำรวจเอก เผด็จ งามละม่อม ผู้กำกับการ กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจตำรวจสืบสวนนครบาล ร่วมแถลงคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ตำรวจตั้งสมมติฐานในการดำเนินคดีฐานพรากเด็กและกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้เสียชีวิต และซ่อนเร้นอำพรางศพ แม้ว่าจนถึงขณะนี้ จะยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอในการออกหมายจับผู้ใดได้ แม้จะพยายามรวบรวมพยานหลักฐานมานานถึง 4 เดือนก็ตาม พร้อมทั้ง ยืนยัน การสืบสวนสอบสวนยังไม่ยุติ เพราะคดีนี้มีอายุความ 20 ปี แม้ว่าตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากคดีไม่สามารถสรุปคดีได้ภายใน 1 ปี ตำรวจต้องส่งสำนวนให้อัยการ ดังนั้น คดีน้องชมพู่ตำรวจยืนยันว่า ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลตามอายุความ 20 ปีที่เหลืออยู่

พร้อมขอให้มั่นใจแม้ว่า วันนี้จะยังตอบคำถามไม่ได้ว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุในคดีนี้ แต่ตำรวจจะยังคงสืบสวนคดีต่อไป

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเชื่อว่า น้องชมพู่ไม่ได้เดินขึ้นไปเสียชีวิตเองแต่อาจถูกบุคคลใดที่รู้จักกันทั้งทางตรง หรือ ทางอ้อมทำให้เสียชีวิต

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล เป็นผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้หรือไม่ เพราะตามพยานหลักฐาน ตำรวจยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุในคดีนี้ และยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใด ดังนั้นทุกคนถือเป็นผู้บริสุทธิ์หมด

ส่วนที่มีการระบุว่า นายไชย์พล เป็นจำเลยสังคม ต้องถามกลับไปว่าใครเป็นผู้กำหนดให้นายไชย์พล เป็นจำเลยสังคม

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ความรู้เกี่ยวกับกรอบการสืบสวน โดยมีสมมติฐาน 3 ข้อ คือ ผู้ก่อเหตุต้องเป็นคนใกล้ชิดกับน้องชมพู่ หรือ น้องชมพู่ถูกบังคับพาตัวไป หรือเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง นอกจากนี้ ยังมั่นใจว่า ผู้ก่อเหตุต้องมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่รู้จักภูเขาที่พบศพอย่างดี

ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุ ตำรวจคงต้องสอบสวนขยายผลต่อทั้งประเด็น แรงจูงใจในเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ หรือความขัดแย้งของบุคคลใกล้ชิดกับน้องชมพู่

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังยอมรับว่า มีบุคคลต้องสงสัยอยู่ในใจแต่ทั้งนี้ คงไม่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมกันนี้ ยังยอมรับอีกว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของสังคม จึงทำให้การสืบสวนคดีทำได้ยาก เพราะมีกลุ่มบุคคลจำนวนมากเข้าไปเกี่ยวข้องในพื้นที่ แต่ย้ำว่า ตำรวจจะยังคงสืบสวนและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้ต่อไป

สำหรับการแถลงข่าวในวันนี้ ยังนำคลิปวีดีโอเกี่ยวกับผลการชันสูตรศพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีการจำลองและการทดสอบทางนิติวิทยาศาสตร์รวมทั้ง การตรวจสอบทางด้านกีฏวิทยา (แมลง)​ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ มาเปิดเผย โดยผลการชันสูตร​พอจะระบุช่วงเวลาการเสียชีวิตได้ว่า น้องชมพู่ เสียชีวิตในช่วงเวลาประมาณ14 นาฬิกาของวันที่ 12 พฤษภาคม จนถึงช่วงเวลาประมาณ 14 นาฬิกาของวันที่ 13 พฤษภาคม

และแพทย์ ยังระบุอีกว่า ไม่พบร่องรอยบาดแผลที่ทำให้เสียชีวิต และไม่พบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่จากการสอบสวน แพทย์ผู้ชันสูตร​ฯ ให้ความเห็นว่าน้องชมพู่ อาจเสียชีวิตจากการขาดน้ำและอาหาร และยอมรับว่า การชันสูตรศพของน้องชมพู่ทำได้ยาก เนื่องจากสภาพศพเริ่มเน่า

ส่วนผลการตรวจสอบเส้นผมที่พบในจุดเกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐาน ได้นำเส้นผมดังกล่าว ไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยยืนยันได้ว่า นอกจากเส้นผมของน้องชมพู่แล้ว ยังพบเส้นผมของบุคคลอื่นในจุดเกิดเหตุ ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบุคคลทางฝั่งของแม่น้องชมพู่ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของบุคคลใด

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img