ส่วนการหารือกับนายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมเมื่อวานนี้ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเรื่องการแก้ รธน. เพราะมีความเห็นไปในทางเดียวกันแล้ว ซึ่งสิ่งที่ตนเห็นว่าต้องเร่งทำต่อไปคือเร่งหารือและหาจุดร่วมกับวุฒิสมาชิก เพราะถ้า 3 ฝ่ายคือพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน วุฒิสมาชิก เห็นร่วมกันได้ รธน. ก็แก้ได้ โดยตนได้สั่งการให้กรรมาธิการของพรรคประชาธิปัตย์ได้ผลักดันอย่างเต็มที่ในการประชุมกรรมาธิการพิจารณาก่อนรับหลักการในช่วง 1 เดือนนี้ เพราะเป็นทั้งจุดยืนพรรคและนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และให้สนับสนุนร่างแก้ไขของพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่แก้ ม.256 ให้ตั้ง สสร. โดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2
ส่วนความเห็นที่บางฝ่ายเห็นควรแก้ปัญหาปากท้องก่อนแก้ รธน. นั้น ตนเห็นด้วยว่าเรื่องปากท้องสำคัญมาก แต่การบ้านของประเทศมีหลายข้อและสามารถทำพร้อมกันไปได้ เพราะการแก้ปัญหาปากท้องเป็นหน้าที่รัฐบาล ส่วนการแก้ รธน. เป็นหน้าที่รัฐสภา ส่วนร่างแก้ รธน. ของไอลอว์นั้นยังต้องรอการบรรจุวาระก่อนจึงจะพิจารณาได้ เพราะฉะนั้นขณะนี้ถือว่าร่างที่กรรมาธิการพิจารณาก่อนรับหลักการยังมีแค่ 6 ร่าง