นายอนุชา กล่าวว่า ก็ต้องไปว่ากันในชั้นกรรมาธิการอีกครั้งหนึ่ง พร้อมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีมีเจตนาที่หวังดีเพื่อจะให้บ้านเมืองเดินไปได้ พร้อมย้ำว่า เป็นที่น่าเสียดายที่คณะกรรมาธิการชุดนี้มีเพียงพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว. ไม่มีฝ่ายค้านเข้าร่วม ในเมื่อมีเวทีให้แก้ไขแล้ว ก็อยากเห็นการเข้าร่วม เชื่อว่าคณะกรรมาธิการฯ ไม่มีความคิดที่จะกีดกั้น ปิดบัง ในการเชิญฝ่ายค้านมาร่วมแสดงความคิดเห็น ส่วนที่ฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมจะทำให้เกิดปัญหาไม่มีการยอมรับในอนาคตนั้น เชื่อว่าเป็นการคาดการณ์กันไปเอง ทุกอย่างต้องมีเหตุผลว่าจะเดินไปสู่จุดไหนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สิ่งไหนได้หรือไม่ได้ และเป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตยที่มีความเห็นต่างกัน ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ที่ปกครองด้วยเสียงของคนส่วนมาก และเชื่อว่าจะมีการหาข้อสรุปร่วมกันเพื่อยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง พร้อมฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมทุกอย่างต้องพูดคุยกัน ไม่ใช่ความเห็นของคนกลุ่มเดียว ทำอย่างไรที่จะหาจุดร่วมเพื่อให้สังคมปลอดภัย
ส่วนความเห็นต่างภายในพรรคนั้น ก็จะต้องมีการพูดคุยกัน ถือเป็นเรื่องปกติของพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ต้องนำมาเป็นบทเรียน ถือธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตย