จึงอยากเรียกร้องว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรคิดเอาชนะประชาชน
ขณะที่ นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย (สร.) กล่าวว่า การอ้างข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 121 วรรคสาม เพื่อให้มีการตั้งกมธ. นั้น ตนมองว่าประชาชนทราบดีว่านี่คือเกมส์ ซึ่งประชาชนรู้ทัน การทำแบบนี้ถือว่าเป็นการไปขัดขวางเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างมาก เป็นอันตราย จะทำให้สภาถึงทางตัน และไม่แก้ปัญหาอะไรเลย และจะทำให้การเมืองนอกสภานั้นทวีความรุนแรง และบ้านเมืองจะประสบความหายนะได้
ด้านสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (พช.) กล่าวว่า ส.ว.ส่วนใหญ่ก็รับราชการมาจนเกษียณ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องคิดถึงบ้านเมือง และประเทศชาติ และอีกฝ่ายก็บอกว่าอยากจะแก้ ฝ่ายค้านจึงเสียเวลาไปนั่งคุยกับเขามาตั้งนาน และอภิปรายไปตั้ง 2 วัน แต่คืนนั้นกลับบ้านไปนอนตาไม่หลับ เพราะโดนแหกตา นี่คือสิ่งที่คาดไม่ถึงจริงๆ
นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนได้รับรู้ รับทราบจิตใจ ส.ว. การกระทำครั้งนี้ไม่ได้มองเห็นหัวประชาชนเลย ทั้งที่รู้ว่า ประชาชนต้องการอะไร และประเทศชาติเสียหายอย่างไร อีกทั้งไม่มั่นใจว่า ส.ว.กันเองจะเสียงแตก จึงใช้วิธีการตั้งกมธ.เพื่อเตะถ่วง
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลเห็นว่าการโหวตลงมติตั้ง กมธ.อาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 163 จะมีการขยายผลต่อหรือไม่ นั้น น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลยืนยันที่จะดำเนินการต่อเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ อย่างไรก็ตาม ต้องรอประชุมพรรคในสัปดาห์หน้า