โดยนายจักรพันธ์ กล่าวว่า การเดินทางมา อ.แม่สอด ในครั้งนี้ กมธ.การต่างประเทศ ต้องการมารับทราบข้อเท็จจริงในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมามีการให้ข่าวจากที่ต่างๆ ซึ่งสร้างความสับสนและกังวลให้ประชาชนว่าจ.ตาก เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นผลจากการระบาดในประเทศเมียนมา จากการมารับฟังและตรวจเยี่ยมในพื้นที่พบว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเห็นว่าทางจังหวัดและประชาชน จ.ตาก ยังคงมาตรการเข้มงวดการ์ดไม่ตก

นายจักรพันธ์ กล่าวอีกว่า ทางท้องถิ่นและภาคเอกชนในพื้นที่ เช่น เทศบาลนครแม่สอด สภาอุตสาหกรรม และสภาหอการค้า ได้เสนอให้ส่วนกลางปรับปรุงแก้ไขระเบียบต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19 ผ่านไป โดยเตรียมเสนอภาครัฐให้ยกระดับเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษนานาชาติแม่สอด-เมียวดี โดยรวมเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดกับเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา เป็นเขตเศรษฐกิจเดียวกันเพื่อยกระดับความน่าลงทุนของพื้นที่ ซึ่งตนจะได้นำเสนอกมธ.ชุดใหญ่เพื่อเสนอต่อรัฐบาลต่อไป
ด้านนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวยืนยันว่า มาตรการควบคุมที่จังหวัดตากได้มีการดำเนินการบริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ซึ่งเปิดให้เฉพาะรถขนสินค้าเข้าออก และคนพม่าที่เดินทางกลับประเทศตนเอง นอกจากนี้ตามแนวชายแดนธรรมชาติระยะทาง 500 กว่ากิโลเมตร ก็ได้มีการตรวจตราโดยอาศัยเครือข่ายชาวบ้านท้องถิ่น ร่วมกับกำลังของเจ้าหน้าที่กวดขันผู้ข้ามแดนผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้จนถึงปัจจุบันจ.ตาก ไม่พบผู้ติดเชื้อในพื้นที่แต่อย่างใด

