ซึ่งการจัดการประกวดและมอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 3 เพื่อติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ รวมถึงเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและยกย่องเชิดชูเกียรติ ให้กับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการจัดการขยะมูลฝอยดีเด่น
สำหรับผลการคัดเลือกจังหวัดที่มีการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ระดับประเทศ ประจำปี 2562 แบ่งเป็น 3 กลุ่มจังหวัด ดังนี้ ระดับกลุ่มจังหวัดขนาดใหญ่ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดลพบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ รางวัลชมเชย ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ, ระดับกลุ่มจังหวัดขนาดกลาง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดเลย รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดยโสธร รางวัลชมเชย ได้แก่ จังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก และระดับกลุ่มจังหวัดขนาดเล็ก
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดลำพูน รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดอ่างทอง รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ รางวัลชมเชย
ได้แก่ จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอุทัยธานี
โดยพล.อ.ประวิตร ได้เยี่ยมชมการจัดแสดงนิทรรศการถอดบทเรียนความสำเร็จของจังหวัดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้ง 3 กลุ่มจังหวัด หลังจากนั้นได้มอบรางวัลให้กับ 15 จังหวัดต้นแบบการจัดการขยะมูลฝอยระดับประเทศ โอกาสเดียวกันนี้ ได้กล่าวแสดงความยินดีและมอบนโยบายด้านการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของทุกคน ทุกหน่วยงานที่ต้องบูรณาการร่วมมือกันตั้งแต่ครัวเรือนไปสู่ชุมชน จนถึงระดับประเทศ การบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ไม่ใช่เป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยัง
เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาประชาคมโลก บ้านเมืองที่สะอาด เรียบร้อย สวยงาม นอกจากจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับประชาชน และยังเป็นปัจจัยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ให้กับประเทศ และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ