นายปริวรรต วงษ์สำราญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกบการนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติกล่าวในฐานะประธานเปิดงานว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)หรือ NIA ได้ดำเนินโครงการ Startup Thailand League ซึ่งเป็นหนึ่งกิจกรรมในแผนพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้น หรือสตาร์ทอัพ ที่ดำเนินตามนโยบายปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศและวิสัยทัศน์ท่านนายกรัฐมนตรีที่ต้องการพัฒนา “วิสาหกิจเริ่มตันเป็นนักรบทางเศรษฐกิจใหม่” รวมทั้งเป็นการพัฒนาระบบนิเวศของสตาร์ทอัพในสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมรวม 39 แห่ง เป็นมหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการ (Entrepreneurial university) ที่สร้างความตระหนัก ความตื่นตัว ร่วมบ่มเพาะวิสาหกิจเริ่มต้น ตลอดจนถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี และเป็นแหล่งสร้างสรรค์ความคิดและนวัตกรรม โดยดำเนินงานร่วมกับภาครัฐในการสนับสนุนนักศึกษา นักวิจัยและผู้ประกอบการ ให้เข้าถึงทรัพยากรที่จะส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจ จากความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ และเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคตของประเทศ โดยตลอดระยะเวลาของโครงการ Startup Thailand League ได้เกิดแผนงานทางธุรกิจ และนวัตกรรมใหม่ ของสตาร์ทอัพที่มาจกนิสิต นักศึกษา ซึ่งมีการนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจจริงแล้วหลายราย
ในปี 2563 นี้ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของการดำเนินงานโครงการ Startup Thailand League เป็นรูปแบบออนไลน์ ซึ่งยังคงได้รับความสนใจจากเหล่านิสิตนักศึกษาประชาคมสตาร์ทอัพข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี โดยตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 เป็นการอบรมถ่ายทอดความรู้ Online Coaching Camp แก่นิสิต นักศึกษาทั่วประเทศกว่า 600 คน และได้จัดการประกวดแข่งขัน Online Pitching Startup Thailand League 2020 เมื่อวันที่ 16-17 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา มีทีมนิสิต นักศึกษา จ 39 มหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการ ข้าร่วมนำเสนอไอเดียของธุรกิจ รวมทั้งสิ้น 390 ทีมและมีทีมผ่านเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับทุนสนับสนุนจกกระทรวงการอุตมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ในการจัดทำต้นแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Prototype) ตามแผนงานธุรกิจสตาร์ทอัพ รวม200 ทีม ที่มาจัดแสดงผลงาน
นายปริวรรต กล่าวย้ำว่า NIA ตระหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรม เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ จึงพยายามผลักดันและส่งเสริมให้มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการสังคม พร้อมสนับสนุนให้เกิดสตาร์ทอัพขึ้นในแต่ละภูมิภาค และโครงการ Startup Thailand League ที่เป็นการทำงานร่วมกับ 39 มหาวิทยาลัยชั้นนำที่กระจายอยู่ทั่วประเทศนี้ คือเวทีหนึ่งที่ให้นิสิต นักศึกษา ได้เตรียมความพร้อมสู่การเป็นสตาร์ทอัพด้วยการนำเสนอแผนธุรกิจและมีผลงานต้นแบบที่น่าสนใจในหลากหลายสาขา เช่น สุขภาพ การท่องเที่ยว การเกษตร ดิจิทัลคอนเทนท์ เป็นต้น เพื่อสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจเชิงพาณิชย์
และทิ้งท้าย ขอบคุณธนาคารออมสิน ที่ให้การสนับสนุนโครงการและเห็นถึงความสำคัญที่จะสนับสนุนให้เยาวชนไทยก้าวไปสู่เวทีทางธุรกิจในอนาคต และขอเชิญชวนให้นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ ได้ก้าวเข้ามาเริ่มตันการเป็นสตาร์ทอัพ และเข้าร่วมโครงการในปีต่อๆ ไป