โดยการประชุมสามารถบรรลุข้อตกลงยอมรับร่วมสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ และข้อตกลงยอมรับร่วมสาขาวัสดุก่อสร้าง และพร้อมลงนามภายในปีนี้ ซึ่งหากข้อตกลงทั้งสองฉบับมีผลใช้บังคับ จะช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจของอุตสาหกรรมดังกล่าว เนื่องจากเมื่อสินค้าผ่านการตรวจสอบมาตรฐานของหน่วยงานในประเทศอาเซียนที่ส่งออกแล้ว ไม่ต้องตรวจซ้ำในประเทศอาเซียนที่นำเข้าอีก โดยในปี 2562 ไทยส่งออกสินค้ายานยนต์ไปยังอาเซียน มูลค่ากว่า 5,071 ล้านเหรียญสหรัฐ และส่งออกสินค้าวัสดุก่อสร้างไปยังอาเซียน มูลค่ากว่า 473 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าที่สำคัญ อาทิ เตรียมขยายการใช้งานระบบ ASEAN Single Window ให้ครอบคลุมเอกสารอื่นเพิ่มเติมอีกด้วย เช่น ใบขนสินค้าอาเซียน และใบรับรองสุขอนามัยพืช รวมทั้งการเริ่มนำแนวปฏิบัติเรื่องการใช้มาตรการที่มิใช่ภาษีของอาเซียนมาใช้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสร้างบรรยากาศที่ดีต่อการค้าและการลงทุนในภูมิภาค และการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียนให้ทันสมัยและรองรับรูปแบบการค้าในปัจจุบัน รวมทั้งการลดอุปสรรคทางการค้าให้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายจะดำเนินการแล้วเสร็จ ในปี 2564
โดยภาคเอกชนได้เสนอแนวทางการรับมือวิกฤตโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะยาว โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้สนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม และการร่วมกับหน่วยงานเฉพาะด้านโควิด-19 ของอาเซียน จัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแผนการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อผู้นำอาเซียน
ทั้งนี้ ในปี 2562 การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่าการค้ารวม 107,674 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกจากไทยไปอาเซียน มูลค่า 62,841 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 44,833 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 มีมูลค่าการค้ารวม 47,749 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 28,498 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 19,251 ล้านเหรียญสหรัฐ