กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.พุฒิเดช บุญกระพือ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม, พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง, พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ต.พิทยา ธนาวุฒิ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลัง
ร่วมกันจับกุม นายสัจจพล ศรีธรรมราช อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ จ.82/2555 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2555 โดยกล่าวหาว่า “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยวิธีอื่นใด, พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วยเพื่อการอนาจาร, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”
จับกุมได้บริเวณริมคลอง ม.2 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ.2554 นายสัจจพลหรืออาร์ม (ผู้ต้องหา) ได้ใช้อุบายหลอกลวงนางสาวเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายซึ่งในขณะนั้นศึกษาอยู่ชั้นม.3 ให้มาที่บ้าน ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช แล้วได้กักขังนางสาวเอฯ ไว้ในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเรานางสาวเอฯ ก่อนจะพากลับไปส่งที่บ้าน โดยได้ขู่บังคับนางสาวเอไม่ให้บอกเรื่องนี้ แต่เมื่อนางสาวเอฯ กลับถึงบ้าน ผู้ปกครองของนางสาวเอฯ เห็นใบหน้านางสาวเอฯ มีร่องรอยเหมือนถูกทำร้าย จึงได้สอบถามและทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้พานางสาวเอฯ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนคศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช
จนกระทั่ง วันที่ 25 ส.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. สืบสวนติดตามจนทราบว่านายสัจจพลหรืออาร์ม (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมากบดานอยู่ที่บ้าน ม.2 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ประกอบอาชีพทำการประมง และจะใช้ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่อยู่ในเรือออกหาปลาตามแม่น้ำลำคลองหลังบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการจับกุมหลายครั้งแล้ว แต่ผู้ต้องหาหลบหนีโดยกระโดดว่ายน้ำและขับเรือหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงวางแผนปิดล้อมจับกุม จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด
จากการสอบถามผู้ต้องหาผู้ต้องหาให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา