ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ถูกกดดัน หลังการประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (IHS Markit Manufacturing) ปรับลดลงจาก 51.8 ในเดือนก.ค 63 สู่ระดับ 51.7 ในเดือนส.ค.63นอกจากนั้นดัชนีผู้จัดฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (IHS Markit Service PMI) ก็ปรับลดลงจาก 54.7 ในเดือนก.ค.63แตะระดับ 50.1 ในเดือนส.ค. 63 แสดงถึงภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนที่ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19
ขณะเดียวกัน Baker Hughes เปิดเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงราคาน้ำมันดิบต่ำในเดือนมี.ค. 63โดย ณ สัปดาห์สิ้นสุด 21 ส.ค. จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น10 แท่น สู่ระดับ 254 แท่น
ด้านกลุ่มโอเปกพลัสกดดันประเทศที่ผลิตเกินข้อตกลงลดกำลังการผลิตในเดือนพ.ค.-ก.ค.63 อาทิเช่นอิรักและไนจีเรีย ให้ลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมราว 1.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนส.ค. – ก.ย 63