หน้าแรกการเมือง"ชวน" ปราม "สิระ-เต้" หลังดอดพบขออย่ารุนแรงในสภาอีก

“ชวน” ปราม “สิระ-เต้” หลังดอดพบขออย่ารุนแรงในสภาอีก

ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ชุลมุนจนหวิดวางมวยกันกลางสภา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ นายสิระ เจนจาคะ ได้ขึ้นมาพบประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย เพื่อรายงานถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที พร้อมเปิดเผยว่า ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรจึง ขอให้นายชวนดูแลความปลอดภัย ส.ส.ที่ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ให้มีใครมาคุกคาม หรือมาท้าตีท้าต่อย ซึ่งเมื่อวานนี้และวันนี้ ตนถูกคุกคามจากการทำหน้าที่ ส.ส. ทั้งนี้ นายสิระ ได้โชว์ข้อความที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มาแสดงให้เห็นว่า นายมงคลกิตติ์ มีพฤติกรรมเช่นใด ซึ่งเมื่อกราบเรียนนายชวนแล้ว ว่าไม่ควรมีเรื่องดังนี้เกิดขึ้นในสภา

ช่วงที่นายสิระออกมาให้สัมภาษณ์นั้น นายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มาพาตัวนายมงคลกิตติ์ ที่รออยู่หน้าห้องเข้าพบนายชวน เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับนายสิระ จากนั้น นายมงคลกิตติ์ ใช้เวลาพบนายชวนประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ว่ามาพบนายชวนเพราะเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายชวนทราบอยู่แล้ว และเข้าใจว่าสิ่งที่นายสิระทำกับตน แรงมาก

ทั้งนี้นายชวนได้ขอว่า ในสภาฯ อย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น และอยากให้นายสิระมาขอโทษ ซึ่งตนได้รับปากเพราะเป็นลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น เมื่อตนรับปากว่าจะไม่เกิดเรื่องใดๆ ในสภาฯ และในฐานะลูกผู้ชาย หากมาขอโทษเรื่องก็จบ ตนไม่ใช่พวกลอบกัดใครเพราะไม่ใช่หมา แต่ทั้งนี้หากยังไม่ขอโทษ ตนก็จะมอบหมายให้ทนายความไป ฟ้องร้องดำเนินคดีที่ศาลอาญาฐานหมิ่นประมาทในวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคมนี้ พร้อมยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การสร้างสถานการณ์เพื่อกลบข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ตามที่มีสื่อบางสื่อเสนอพร้อมยอมรับว่าเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) บันดาลโทสะที่โพสต์ด่าแต่บังเอิญนี้ไปโดนข้อความที่โพสต์จึงถูกลบไปไม่ได้มีเจตนาลบข้อความ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อด้วยว่า ตนได้รับปากนายชวนแล้วว่า จะจบเรื่องหากเจอกันในสภาฯ ก็จะไม่ไปถามไปพูดไปคุย ซึ่งถือว่าถูกต้องแล้ว เพราะเป็นสภา แต่ไม่รับปากว่าเจอข้างนอกจะเป็นอย่างไร และจะไม่มีปัญหาเรื่องการทำงานร่วมกัน เพราะมี ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลหลายคน แต่ตนขอเดินคนละทางกับนายสิระ ทางใครทางมัน และไม่กังวงกรณีที่ถูกแจ้งความเพราะไม่ได้มีโทษหนักเพราะเป็นการบันดาลโทสะ แต่กรณีของนายสิระถือว่าหมิ่นประมาทตนถึง 2 ครั้ง

ด้านนายชวน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายสิระ กับนายมงคลกิตติ์ ว่าได้บอกทั้ง 2 คนว่า ทำแบบนี้ ภาพพจน์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเสีย ต้องแยกระหว่างคนหมู่ใหญ่กับคน 2 คน ออกจากกัน อย่าเหมาว่าทุกคนในสภา จะมีสภาพแบบนี้ตนตั้งใจว่าจะให้ทั้ง 2 คนได้พบกันและคุยกัน เพราะว่าถ้าไม่คุยกันจะยิ่งขัดแย้งกัน โดยนายสิระ ยืนยันว่าจะส่งเรื่องให้กรรมการจริยธรรม พอดีกับสัปดาห์ที่แล้วกำลังประชุมกรรมการจริยธรรมเพื่อมอบให้นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ไปร่างระเบียบวิธีปฏิบัติก็จะเป็นหนึ่งในเรื่องที่รวมไว้เพื่อเสนอคณะกรรมการจริยธรรมต่อไป

นายชวน กล่าวต่อว่า ความรุนแรง ขอร้องว่าอย่าให้เกิดขึ้น การขัดแย้ง เรื่องวาจาไม่เป็นไร ค่อยว่ากัน แต่เรื่องความรุนแรงอย่าให้เกิดขึ้น ตนพยายามที่จะเชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยกัน แต่ทั้งคู่ไม่ยอมมาคุยกัน โดยคนที่ยืนกรานว่า จะไม่ขอคุยคือ นายสิระ ซึ่งทางฝ่ายของนายมงคลกิตติ์ เองก็ไม่ต้องการเช่นกัน

เมื่อถามว่า หากมีการต่อยหรือตีกันในสภาฯ จริง จะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง นายชวน กล่าวย้ำว่าอย่าให้เกิดขึ้นเด็ดขาดตนคิดว่าดีที่สุดคือนำคำพูดของแต่ละฝ่ายมารวบรวมเรียบเรียงว่าเริ่มต้นอย่างไร ใครเป็นผู้ก่อเรื่องขึ้นมาก่อนและเรื่องตามมาอย่างไร ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะเอาให้ฟันร่วงหมดเลย เขาก็ยืนยันว่าเขาจะไม่ทำ”

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img