นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังที่ประชุมพิจารณากรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบกรณีพล.ต.อ.จักทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจากการเข้าชี้แจง ของพล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 7 นายนั้น กรรมาธิการฯมีมติ ว่าการออกคำสั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย เป็นไปตาม พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ปี2547 มาตรา 61(2)และพิจารณาเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด ถือเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการดำเนินการสอบสวน เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ ดังนั้นจึงถือว่าคำสั่งสำรองราชการดังกล่าวไม่เป็นการลงโทษ เพราะมีตำแหน่งใหม่รองรับคือตำแหน่งสำรองราชการ ซึ่งยังได้รับเงินเดือนและยังสามารถได้รับการพิจารณาขึ้นเงินเดือนทุกปี อย่างไรก็ตามการพิจารณาตำแหน่ง ผบ.ตร. คนใหม่เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตํารวจ (กตร.) ซึ่งกรรมาธิการจะนำความเห็นดังกล่าวส่งไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อประกอบการพิจารณา