หน้าแรกเศรษฐกิจ-การเงินUTE ดัน 13 เมืองสู่ "สมาร์ทซิตี้ชาร์เตอร์"

UTE ดัน 13 เมืองสู่ “สมาร์ทซิตี้ชาร์เตอร์”

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม หรือ สกสว. ลงนามMOUข้อตกลงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพดิจิทัลและแพลตฟอร์มการบริหารจัดการย่านอัจฉริยะ ตามกรอบกฎบัตรเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City Charter ซึ่งเป็นความร่วมมือของสมาคมผังเมืองไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด หรือ UTE ร่วมกับ 13 เทศบาล ซึ่งเป็นเครือข่ายของกฎบัตรแห่งชาติ

โดยนายพิรชัย เบญจรงคกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด หรือ UTE ภายใต้กลุ่มบริษัทเบญจจินดา กล่าวว่า UTE มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิตอล โดยมีความพร้อมสนับสนุนความร่วมมือในการพัฒนาประเทศร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา เพื่อประโยชน์สูงสุดในการยกระดับเศรษฐกิจและนำไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูงตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ โดย UTE ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานสื่อสารโทรคมนาคม เสาอัจฉริยะ พร้อมแพลตฟอร์มบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ ส่งเสริมเมืองน่าอยู่ ปลอดภัย ยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเสาอัจฉริยะช่วยยกระดับการจัดเก็บข้อมูลการวิเคราะห์ข้อมูลรวมทั้งการบริหารจัดการในระดับเมืองทำหน้าที่รับส่งข้อมูลอุปกรณ์ระหว่างตัวเสาไปยังแพลตฟอร์มส่วนกลางของเทศบาล สามารถแสดงผล ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนรวมถึงความสามารถอัจฉริยะในการป้องกันภัยและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่

ซึ่งการลงนามข้อตกลงในครั้งนี้ ถือเป็นประโยชน์และมิติใหม่ในการสร้างแนวทางการพัฒนาร่วมกัน รวมถึงการวางแผนปฏิบัติการวิจัยพัฒนาเมืองและการปรับปรุงฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของเทศบาล ชุมชนและพื้นที่ศึกษาอื่นๆที่ได้วางแผนไว้ภายใต้เจตนารมณ์กฎบัตรแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองและเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเป็นกลไกในการเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันโดยรวมให้กับประเทศ ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์แห่งชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทางนี้มีเป้าหมายสำคัญ 4 ข้อ คือการสนับสนุนการตกลงร่วมกันของทุกภาคส่วนของสังคมในการพัฒนาเทศบาลเป็นพื้นที่นำร่องพัฒนาเป็นบ้านอัจฉริยะ ร่วมกันวางแผนและออกแบบแนวคิดด้านการพัฒนาด้านกายภาพโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ส่งเสริมด้านอัจฉริยะเพื่อเป็นกลไกสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และสุดท้ายคือการสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการวิจัยและนำไปปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วง

และกดบัตรแห่งชาติ คาดว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ย่านอัจฉริยะและพื้นที่โดยรอบจะปรับเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าเท่าตัวภายหลังการลงทุนหรือคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมเพิ่มขึ้นในย่านอัจฉริยะและพื้นที่โดยรอบไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทต่อปีในแต่ละพื้นที่ นับจากการลงทุนตามขั้นตอนเสร็จสิ้น

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img