ทั้งนี้ ดร.รยุศด์ กล่าวต่อว่า ตนและสามัคคีไทย ในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง ซึ่งต้องทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของประชาชน คงไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบและเบือนหน้าหนีจากสิ่งที่คนรุ่นใหม่ในสังคมจำนวนมากเรียกร้องผ่านการชุมนุมนี้ได้. ดังนั้น ตนจึงอยากเสนอให้มีการนำข้อเสนอของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งจากการชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ และการชุมนุมที่ผ่านมา รวมถึงการชุมนุมอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในอนาคต เกิดการพิจารณาอย่างเป็นกิจลักษณะในสภา เนื่องจากในวันนี้บริบททางสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดการตั้งคำถามจากประชาชน รัฐบาลและสภาซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนก็ต้องทำหน้าที่ในการนำข้อเรียกร้องเข้ามาพูดคุยและพิจารณาอย่างเป็นทางการ แน่นอนตนไม่คิดว่ารัฐบาลหรือสภาจะสามารถทำตามข้อเรียกร้องทั้งหมดได้ แต่การเริ่มต้นให้มีการพูดคุยก็ถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในการปกป้องดำรงรักษาสถาบัน และรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขให้อยู่คู่กับสังคมไทยตลอดไปอย่างยั่งยืนถาวร และพรรคสามัคคีไทยมีจุดยืนชัดเจนในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทยสืบไป

