“ตร. แถลงคดีบอส” พบตำรวจ เข้าข่ายผิด ม.157 ชุดทำสำนวนเก่า -ใหม่ รวม 14 นาย สั่งรื้อคดีใหม่ 2 ข้อหา ไม่พบผิด ผู้ช่วย ผบ.ตร.สั่งไม่แย้งอัยการ
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมด้วย พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวขแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) และคณะทำงานตรวจสอบคดีบอส อยู่วิทยา แถลงผลการประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริง 15 วัน ตามที่ทีการกำหนดกรอบเวลา พร้อมกับมีการไล่ทามไลน์ขั้นตอนการทำงานของพนักงานสอบสวนจนถึงส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด จนถึงการไม่สั่งแย้งคดี
โดย พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ระบุว่า ผลการตรวจสอบของ พล.ต.ท.เพิ่มพูล ชิดชอบ ผู้ข่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.)ไม่พบความบกพร่อง จากการสั่งไม่แย้ง เนื่องจาก การพิจารณาจะต้องพิจารณาตามข้อมูลและหลักฐานภายในสำนวนตามที่อัยการส่งมาเท่านั้ไม่สามารถนำหลักฐานใหม่มาพิจารณาได้ ส่วนพนักงานสอบสวน ที่ทำคดีในสมัยนั้น จะมีกาตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัย ตำรวจ 11 นายที่เคยถูก ปปช. ชี้มูลความผิด ประพฤติมิชอบ ทุจริตืและละเง้นการปฏิบัติหน้าที่ และมีการส่งทำโทษทางวินัยไปแล้ว 11 ราย รวมถึงตำรวจชุดใหม่ อีก 3-4 นาย ที่ต้องมาตรวจสอบความผิดทางวินัยใหม่อีกครั้ง ซึ่งเข้าข่ายฐานความผิดตาม ม.157
สำหรับพฤติการาี่มีการตรวจสอบใหม่นั้น เนื่องจาก คณะทำงานได้ตรวจสอบการทำงานของพนักงานสอบสวนตั้งแต่แรกพบความบกพร่อง 10 ข้อ ดังนี้
(1)ไม่ได้ทำการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ทำการตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาในวันเกิดเหตุประกอบสำนวนการสอบสวน
(2)ไม่ได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และไม่ได้รวบรวมพยานหลักฐานในทันทีเป็นเหตุให้ขาดพยานหลักฐานในการฟ้อง
(3)ไม่ได้สอบสวนปากคำผู้นำตัวผู้ต้องหามามอบตัวประกอบสำนวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าผู้ต้องหาไปที่ไหนอย่างไร เพื่อสอบสวนขยายผลและอาจจะใช้เป็นพยานหลักฐานยืนยันในเรื่องความเมา และข้อเท็จจริงแห่งคดี
(4) การทำสัญญาประกันปล่อยตัวชั่วคราวบกพร่อง ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวเอง จึงไม่ใช่การจับกุม และไม่มีหมายจับ ตาม ป.วิ.อาญามาตรา 134 วรรคท้าย พงส.จึงไม่มีอำนาจให้ประกันตัว ซึ่งจะต้องส่งตัวผู้ต้องหาไปที่ศาลเพื่อขอหมายขังทันที
(5) การใช้ดุลยพินิจของคณะพนักงานสอบสวนที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
(6) ผลการตรวจวิเคราะห์สารเสพติดที่เป็นสารเกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงจากการเสพโคเคน(ยาเสพติดประเภท2) และคำให้การของแพทย์ผู้ตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าพบสาร ที่เกิดจากการเสพ โคเคนในร่างกายผู้ต้องหา ไม่นำเข้าพิจารณาในการทำความเห็นในข้อหาขับรถโดยประมาทฯ และไม่มีการพิจารณาในเรื่องข้อหาเสพยาเสพติด
(7) พนักงานสวนสอบสวนตามคำสั่ง บก.น.5 ที่ 183/55 ลง 4 ก.ย. 55 ไม่กำกับดูแลให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว ไม่เป็นไปตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 134 วรรคท้าย
(8) คณะพนักงานบสวนสอบสวนตามคำสั่ง บก.น.5 ที่ 183/55 ลง 4 ก.ย.55ไม่ขอขยายเวลาการสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 960/37 ลง 10 ส.ค.37 เมื่อได้ทำการสอบสวนครบกำหนดระยะเวลา
(9) คณะพนักงานบสวนสอบสวนตามคำสั่ง บก.น.5 ที่ 183/55 ลง 4 ก.ย.55 มีหลักฐานการรับสำนวนของพนักงานอัยการแต่ไม่รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
และไม่ส่งตัวผู้ต้องหไปขอใศาลออกหมายขังเมื่อการสอบสวนครบกำหนดเวลา 6 เดือน ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 113 วรรคสอง
(10) ผกกสน.ทองหล่อ ในฐานะหัวหนพนักงานสืบสวนสอบสวน ไม่ได้กำกับดูแลการสอบสวนโดยใกล้ชิด ทั้งที่เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน
นอกจากนี้ทาง พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ยัง ได้ระบุเพิ่มเติมอีกว่า การทำงานครั้งนี้จะไม่เป็นการฟอกขาว แต่จะตรวจสอบไปตามข้อเท็จจริงตามความบกพร่องที่พบโดยไม่สนในตำแหน่งใด