ทั้งนี้ ผลจากการเติบโตของการใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียของชาวเมียนมา ทำให้เป็นโอกาสของผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย ที่จะต้องพิจารณาใช้ช่องทางเหล่านี้ในการขยายตลาดส่งออกให้กับสินค้าไทย เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และหากไทยวางแผนเข้าสู่ตลาดได้เร็ว ก็จะสร้างโอกาสได้เร็วเช่นเดียวกัน
ด้านนายธนวุฒิ นัยโกวิท ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 จนถึงเดือนมกราคม 2563 มีผู้ใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 โดยชาวเมียนมานิยมใช้โซเชียลมีเดีย ได้แก่ Facebook มีจำนวนผู้ใช้กว่า 21 ล้านบัญชี Instagram ประมาณ 640,000 บัญชี และ Linkedin ประมาณ 510,000 บัญชี
สำหรับสถานการณ์การค้าออนไลน์ เมียนมามีช่องทางการค้าออนไลน์ 5 อันดับได้รับความนิยม คือ Facebook , Shop.com.mm , Barlolo.com , Spree.com.mm และ Baganmart.com และพบว่า ชาวเมียนมามีการค้าขายสินค้าผ่านทาง Facebook และใช้วิธีเก็บเงินปลายทางเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนี้ ยังพบว่าจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการใช้อินเทอร์เน็ตสูงขึ้น และมีการซื้อสินค้าออนไลน์ และใช้แอปพลิเคชันจัดส่งอาหารมากขึ้น ทำให้ธุรกิจให้บริการสั่งซื้อและจัดส่งอาหารผ่านออนไลน์เติบโต โดยมีแพลตฟอร์มที่สำคัญ เช่น Yangon Door2Door , Food Panda , Grab Food , Food2U