“ผบ.ตร.”เดือด..!! ตำรวจทองหล่อเมากร่าง มีคำสั่งให้ออกจากราชการใว้ก่อน

66

“ผบ.ตร.”เดือด..!! ตำรวจทองหล่อเมากร่าง ขาดสติ ยิงปืนหน้าสถานบริการ กำชับ น.1 สั่งผู้การ น.5 มีคำสั่งให้ออกจากราชการใว้ก่อน “ลั่นอย่าเอาใว้”

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่อ ชายเมาสุรา ขาดสติ แล้วยิงปืนขึ้นฟ้า หน้าสถานบริการ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สน.ตำรวจทองหล่อ นั้น หลังเกิดเหตุสืบทราบว่าเป็นข้าราชการตำรวจ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร ผบ.ตร.ได้รับรายงานตามลำดับชั้น จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. เร่งดำเนินการทางวินัยร้ายแรงและอาญาโดยเฉียบขาด เพื่อไม่เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

ต่อมา รรท. ผบช.รับนโยบายจาก ผบ.ตร.จึงได้สั่งการ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.บก.น.5)มีคำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ที่ 394/ 2567เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อนด้วย จ่าสิบตำรวจ มนตรี มีเดช ผู้บังคับหมู่ งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน ตามคำสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 5
ที่ 383 /2567 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2567 กรณีกระทำผิดอาญาประกอบกับผู้บังคับบัญชาชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า หาก จ่าสิบตำรวจ มนตรี มีเดช ยังคงอยู่ในหน้าที่จะเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และอาจก่อความไม่สงบสุขแก่ประชาชน จึงมีเหตุผลให้พักราชการได้ ตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 3 (1 ) คือ ถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือต้องหาว่ากระทำผิดอาญาในเรื่องเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ โดยผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการตำรวจ มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา แต่กลับต้องหาว่ากระทำผิดอาญาเสียเอง ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนและภาพลักษณ์ของสำนักงาน
ตำรวจแห่งชาติ ถ้าให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการได้ ประกอบกับได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าการสอบสวนพิจารณาทางวินัยนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 105 มาตรา 131 และมาตรา 179 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.ศ.2565 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสังพักราชการและการสังให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 8 จึงให้ จ่าสิบตำรวจ มนตรี มีเดช ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร. ได้ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 141 ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง และประสงค์โต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอทธรณ์นี้ให้ทำคำคำคำฟ้องเป็นหนังสือยืนต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 90 วันนับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์ สั่ง ณ วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2567 ”คำสั่งดังกล่าวระบุ“

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#ผบ.ต่าย