นายธนกร กล่าวอีกว่า ถ้าคิดว่าตัวเองแน่จริง ได้เป็น ส.ส.เพราะตัวเอง ไม่ใช่เพราะพรรค ก็น่าจะออกไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ จะได้ไม่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสถาบันทางการเมืองที่ประชาชนชื่นชมมานานต้องมัวหมองไปด้วยเพราะความปากพร่อยของคนเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตาม ที่นายเทพไท ดูถูกดูแคลนตนสารพัดนั้นตนไม่ได้ถือสาอะไร เหมือนสุภาษิต เล่นกับหมา หมาเลียปาก นายเทพไท เป็น ส.ส.มาหลายสมัย เอาเวลาไปคิดดีกว่าว่า ที่ผ่านมาได้ทำอะไรเพื่อพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างที่ควรจะเป็นบ้าง หรือจำได้แต่ข่าวแย่งเพื่อนพี่น้องในพรรคตัวเองเพื่อส่งคนในครอบครัวลงเลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราช และถูก กกต. แจกใบแดง วันนี้นายเทพไทจึงไม่ควรคิดที่จะไปสอนใคร กลับไปสอนคนในครอบครัวให้รอดจากคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราชก่อนจะดีกว่า
นอกจากนี้ นายธนกร กล่าวถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ พาดพิงตนเองว่าแทงหวยผิด กระโดดออกจากกลุ่ม 4 กุมารหวังกลับไปกลุ่มสามมิตร ซึ่งเป็นจำพวกนักการเมืองที่ใช้ทฤษฎีเห็บหมา หมาตัวเดิมตายเห็บก็กระโดดไปหาหมาตัวใหม่ ว่า ตนเองเข้ามารับใช้ประเทศชาติและประชาชน ทฤษฎีเห็บหมาของนายเทพไท คงต้องเก็บไว้ใช้กับตัวนายเทพไทเองจะดีกว่า นักการเมืองอย่างนายเทพไทตนไม่เคยให้ราคา อยู่ในประเภทปากกล้าขาสั่น พอถูกฟ้องหมิ่นประมาทแทบคลานไปขอโทษนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีคดี ว.5 โฟร์ซีซั่น เสียชื่อ ส.ส.ฝีปากกล้าหมด อยากให้ดูนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นตัวอย่าง ซึ่งตนให้ความเคารพเสมอมา และตนก็ไม่ได้เป็นนั่งร้านให้ระบอบทักษิณเหมือนที่นายเทพไทยกล่าวหา วันหลังจะด่าใครก็หัดทำการบ้านบ้าง ถ้าไม่อยากถูกเด็กเมื่อวานซืนถอนหงอกเอา
อย่างไรตาม ตนเองเคารพผู้อาวุโส ผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่เคยก้าวล่วงถึงพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านตนพูดจาภาษาดอกไม้ สุภาพ ตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง ไม่เคยใส่ร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่เคยโจมตีใครก่อน นายเทพไท อุตส่าห์ได้เป็น ส.ส.ก็ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้นักการเมืองรุ่นหลังบ้าง เพราะเห็นว่าเดือน ส.ค. นี้มีคดีต้องขึ้นโรงขึ้นศาล จะส่งผลถึงตำแหน่ง ส.ส. ด้วยหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาบ้างก็ดี