นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพประมงไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง กรอบวงเงิน 10,300 ล้านบาท โครงการดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ด้วยการจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำช่วยเสริมสภาพคล่องโดยเฉพาะในยุคโควิด-19 ซึ่งได้เปิดให้เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันนี้ 1 กรกฎาคม 2563 – 25 พฤษภาคม 2564

ด้าน นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ชาวประมงสามารถกู้เงินไปเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพได้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3 และผู้ประกอบการประมงจ่ายสมทบเองอีกร้อยละ 4 ต่อปี มีกำหนดชำระคืนเงินกู้ให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่วันที่กู้ ซึ่งจะเปิดรับสมัครชาวประมงที่สนใจเข้าร่วม ณ สำนักงานประมงจังหวัดชายทะเลทั้ง 22 จังหวัด และสำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวมีธนาคารของรัฐที่เข้าร่วม 2 แห่ง ได้แก่ (1)ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) ปล่อยวงเงินสินเชื่อ 5,300 ล้านบาท สนับสนุนเรือประมงพื้นบ้านและเรือประมงพาณิชย์ ที่มีขนาดต่ำกว่า 60 ตันกรอส ในวงเงินรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท (2)ธนาคารออมสิน ปล่อยวงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท สนับสนุนเรือประมงพาณิชย์ ที่มีขนาดตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไป ในวงเงินรายละไม่เกิน 10 ล้านบาท รูปแบบสินเชื่อแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ (1)สินเชื่อเงินกู้ระยะสั้น เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ (2)สินเชื่อเงินกู้ระยะยาว เพื่อเป็นเงินทุนในการไปปรับปรุงเรือ ปรับเปลี่ยนเครื่องมือและอุปกรณ์ทำการประมง