เมื่อวานนี้ (11 มี.ค) รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร หนึ่งในผู้ที่เคยขึ้นปราศรัยบนเวทีกปปส. ให้สัมภาษณ์เปรียบเทียบนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานบริหารกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท นักธุรกิจรุ่นใหม่หมื่นล้าน ที่อาสาเข้ามาขับเคลื่อนประเทศชาติกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในรายการ คนแคระบนบ่ายักษ์ ซึ่ง รศ.ดร.จักษ์ กล่าวว่า นี่คือภาพของคุณ ทักษิณ ที่เคยเข้าสู่การเมืองบนพื้นฐานของการประสบความสำเร็จในธุรกิจ ที่แสดงให้เห็นว่าจะต้องบริหารประเทศได้อย่างแน่นอน แต่คนลืมคิดไปว่าการประสบความสำเร็จเหล่านี้ของคุณ ทักษิณ โดนเฉพา่ะเรื่องการสื่อสาร มันมาจากการผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว เพราะวิ่งเข้าไปหา คสช. (ณ ขณะนั้น) และก็ได้อำนาจมาและผูกขาด อันที่จริงนักธุรกิจต้องสู้บนตลาดเสรี ไม่ใช่ไปผูกขาดอำนาจเหนือคนอื่น ช่วงเวลานั้นเราไม่ได้ลงรายละเอียดจึงลุ่มหลง โดยตนก็ยอมรับว่าเคยเป็นหนึ่งที่เคยชื่นชมคุณทักษิณ
ในตอนหนึ่ง รศ.ดร.จักษ์ กล่าวถึง น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเชิงติดตลกว่า”ยืนยันว่าตอนนั้นที่ ผมชื่นชมเพราะผลงานที่ออกมา ไม่ได้เกี่ยวกับการที่คุณทักษิณ มีน้องสาว คนละประเด็นกัน มันต้องให้เคลียร์ นี่พูดหลักการทางวิชาการ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนไปเลือกเป็นนายกฯ ได้”
จากกรณีที่นายธนากร แสดงจุดยืนต่อคดีของนายทักษิณ ว่าคงจะไปช่วยเฉพาะตัวไม่ได้ แต่จะคืนความชอบธรรมให้บางส่วนในคดีที่ถูกดำเนินการในลักษณะถูกจัดการทางการเมืองและจะต้องกลับมาพิจารณาคดีใหม่โดยศาลที่ยุติธรรม รศ.ดร.จักษ์ กล่าวว่าตอบว่า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคุณธนากรผูกติดอยู่กับใครและอยู่บนมายาคติ โดยมีความเชื่อเป็นพิ้นฐานอยู่แล้วว่า คุณทักษิณ ไม่ได้รับความยุติธรรมจึงใช้คำว่าจะคืนความยุติธรรม ทำไมคุณธนากร ใช้ประโยคแบบนี้ ในเมื่อตัวเองไม่ใช่เป็นผู้พิพากษาและไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจมาตัดสินแบบนี้ คุณทักษิณไม่ได้โดนคดีเรื่องการเมือง แต่คุณทักษิณโดนคดีเพราะคุณทักษิณเป็นนักการเมืองและไปทุจริต อันเป็นความผิดเรื่องอาญา เพราะฉนั้นประเด็นที่พูดออกมาเรื่องความผิด เป็นการใช้ภาษาให้ดูดีและหวังจะได้คะแนนนิยมของคนที่เป็นติ่งของคุณทักษิณ เพื่อที่จะให้มาลงคะแนนให้พรรคคุณธนากร
“แต่ผมคิดว่าซึ่งที่เค้าพูด บางทีมันสะท้อนสิ่งที่เค้าคิด คือหนึ่งเค้าคิดว่าคุณทักษิณไม่ผิดและไม่ได้รับความเป็นธรรม สองมองว่าระบบความยุติธรรมไม่ยุติธรรมและถูกอำนาจกลั่นแกล้งจากการเมือง ทั้งสามอย่างนี้เป็นความคิดที่ฝังอยู่ในตัวคุณธนากรอยู่แล้ว นี่คือบทสะท้อนให้เห็นว่า คุณธนากร ยังมีความพูกพันอยู่กับเรื่องเก่า ทั้งที่บอกว่าจะไปเปิดประตูบานใหม่ แต่ดูเหมือนว่าประตูบานใหม่ของคุณ คือประตูบานเก่าของคนอื่น แสดงว่าถ้าจะคืนความยุติธรรมแบบนี้คดีของคุณทักษิณ ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ใช่หรือไม่” รศ.ดร.จักษ์ กล่าว
รศ.ดร.จักษ์ กล่าวเปรียบเทียบในประเด็นเดียวกันกับคดีของคุณทักษิณที่ ระหว่างคุณธนากร และกลุ่ม นปช. หรือคนเสื้อแดง ที่พยายามที่จะพูดว่า คุณทักษิณ ไม่ได้รับความเป็นธรรมและควรจะได้กลับมาเพิื่อเริ่มต้นพิจารณาคดีใหม่หรือได้รับการนิรโทษกรรม รศ.ดร.จักษ์ กล่าวว่า “ต่างกันตรงที่ว่าคุณธนากรตอบแบบมีหลักการวิชาการเป็นภาษาที่สวย แต่ นปช. ใช้ภาษาไพร่ พูดแบบถื่อๆ ว่าจะเอาอย่างงี้แบบนี้ คือผมไม่ได้ว่าเค้า แต่เค้าบอกเองว่าเป็นกลุ่มไพร่ เค้าใช้ภาษาไพร่ นี่เป็นอีกเลเวลนึง ของไพร่อีกแบบนึง ที่เค้าใช้ภาษาแบบนี้ แต่จริงๆ เนื้อหาไม่แตกต่าง”