นายพชร นริพทะพันธุ์ สมาชิกกลุ่มคนรุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นบุตรชายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงานในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวว่า ขอคัดค้านการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาของพรรคเพื่อไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โดยยืนยันว่าพรรคไม่ได้ติดหล่ม หรือก่อปัญหา พร้อมเรียกร้องบุคลากรกล้าแสดงความเห็นตรงไปตรงมา ยอมรับความคิดต่างของคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ประชาชนไม่เสื่อมศรัทธา ในฐานะคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับการถกเถียงอย่างเปิดเผยระหว่างบุคลากรภายในพรรค เพราะพรรคเป็นองค์กรสาธารณะ ประชาชนจะได้รับรู้ และ คสช.คงไม่สามารถห้ามสมาชิกคิด หรืออภิปรายในประเด็นต่างๆได้
นายพชร กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นด้วยกับคำให้สัมภาษณ์ของคุณหญิงสุดารัตน์ ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยติดหล่ม และเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาวิกฤติปัจจุบัน โดยเห็นว่าพรรคเพื่อไทยถูกวางตะปูเรือใบหรือถูกปล้นมากกว่า เช่นเดียวกันพรรคก็ไม่ได้มีปัญหา หรือเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา เพราะเราถูกขโมยขึ้นบ้าน ถูกเอาเปรียบหลายครั้ง เชื่อว่า บุคลากรภายในพรรคสามารถแก้ไข หรือเปลี่ยนยางที่ชำรุดได้ แต่ต้องใช้แรง กำลัง และฝีมือ โดยเฉพาะบุคลากรต้องรับฟังความเป็นซึ่งกัน และกัน
“พรรคเพื่อไทยคือพรรคของประชาชน ตัวบุคคลไม่สำคัญ แต่บุคคลที่จะมาทำงานให้พรรคนั้นสำคัญ เราต้องฟังเสียงคนของเรา คนของประชาชน หากเราปิดหูปิดตาทำของเราเองแล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงอย่างไร ยิ่งยุคสมัยเปลี่ยนความต้องการก็เปลี่ยนเรื่อยๆ” นายพชร กล่าว
นายพชร ยังระบุว่า ขณะนี้การสร้างคนรุ่นใหม่ในพรรคยังไม่ราบรื่นเท่าที่ควร เพราะบางครั้งก็หลงลืมว่ามีบุคลากรกลุ่มนี้อยู่ นอกจากนี้หากต้องการสนับสนุนคนรุ่นใหม่จริง ต้องพร้อมถกเถียง อภิปราย หรืออดทนกับสิ่งที่ไม่เห็นด้วย จึงขอถามว่า คนรุ่นใหม่ในพรรคถูกปิดกั้นหรือไม่ ใครปิดกั้น และเพราะเหตุใด นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้บุคลากรทางการเมืองกล้าแสดงความคิดเห็น เพราะการต่อสู้ของนักการเมืองจะเป็นผลดีต่อประชาชน
“ปัญหาคือบางคนเลือกที่จะหลงสถานะตัวเอง อ้างเหตุผลด้านศาสนา ความดี เพื่อเอาประโยชน์เข้าตัวเอง จนทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ทั้งที่ธรรมชาติของนักการเมืองต้องต่อสู้ การเมืองย่อมเป็นการเมือง มีทั้งสวยงาม และด้านมือเป็นปกติการถกเถียง และต่อสู้ประเด็นต่างๆ เป็นความจำเป็น” นายพชร กล่าว
นายพชร กล่าวทิ้งท้ายว่า ในฐานะคนรุ่นใหม่ของคนเพื่อไทย ซึ่งอยู่กับองค์กรมาตั้งแต่แรกๆ องค์กรนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของใครคนคนใดคนหนึ่ง เสียงของทุกคนสำคัญ และอยากจะบอกประชาชนทุกคนว่า การต่อสู้ของนักการเมืองนั้นดีต่อประชาชน เพราะคือกระบวนการคัดสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้พวกเขา เป็นภูมิคุ้มกันให้สังคม สิ่งอื่นๆล้วนเป็นสิ่งหลอกลวง เพื่อการคงอำนาจของคนๆหนึ่งหรือกลุ่มๆหนึ่งแค่นั้นเอง.