ในวันนี้ (19 มิ.ย.) รมว.จุติ ได้ลงไปเยี่ยมเด็กๆ ทั้ง 3 ครอบครัวถึงบ้าน พร้อมด้วยกรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กาชาดจังหวัด อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในอ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมสมทบความช่วยเหลือทันที
เรื่องราวของเด็กทั้ง 3 คน ที่ถูกถ่ายทอดผ่านเรียงความ เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น อดทน ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้จะยากลำบาก แต่ทั้ง 3 คนก็เต็มไปด้วยความฝัน ต้องการเรียนให้สูง เพื่อมีอาชีพที่ดี เพื่อเลี้ยงครอบครัวในอนาคต
ด.ช.ศักดิ์สิทธิ์ อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 กับย่าเภา อายุ 99 ปี มีรายได้จากเบี้ยเลี้ยงชีพคนชราเพียงเดือนละ 700 บาท บ้านก็เป็นเพียงสังกะสีตีแปะ ทรุดโทรม ไม่มีความปลอดภัย ถ้าฝนตกก็ยิ่งลำบาก เพราะหลังคารั่ว ในวันหยุด ด.ช.ศักดิ์สิทธิ์ พยายามออกไปรับจ้าง เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย
“ผมอยากจะเรียนสูงๆ แต่ไม่มีเงินมากพอ และยังเป็นห่วงย่าที่ต้องอยู่คนเดียว ผมจะพยายามเพื่อเป็นเป็นทหารตามที่ใฝ่ฝัน ถ้าฝันผมเป็นจริงได้ ผมจะดูแลย่าของผมให้ดีที่สุดครับ”
เช่นเดียวกับเรื่องราวของ ด.ญ.ขวัญ อายุ 13 ปี อยู่ชั้น ม.1 มีพี่น้อง 2 คน พี่สาวเป็นเด็กพิเศษ พ่อป่วยเป็นโรคเส้นเลือดอุดตันทำให้ต้องตัดขา ได้รับเบี้ยผู้พิการ เดือนละ 800บาท และย่าที่ชราอายุ 70 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในครอบครัว สภาพความเป็นอยู่ดังกล่าว ดูสวนทางกับความฝันที่ ด.ญ.ขวัญต้องการเรียนสูงๆ อยากเป็นหมอ เพื่อจะได้ดูแลคนไข้ และครอบครัว ทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น “นั่นคือความสุขที่สุดของหนูแล้ว”
ด.ญ.ไพลิน อายุ 14 ปี อยู่ชั้น ม.3 อยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง มีสมาชิกในครอบครัว 8 คน ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่รายได้ไม่เพียงพอ ทำให้ในวันหยุด “ไพลิน” ต้องไปรับจ้างหารายได้ เธออาศัยในสภาพบ้านที่ทรุดโทรม ไม่มีประตูและห้องที่เป็นสัดส่วน ทำให้ เด๋กหญิงซึ่งกำลังเข้าสู่วัยรุ่น ดูไม่มีความปลอดภัย
“เราไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างสมบูรณ์ เหมือนใคร แต่ก็สามารถมีความสุขได้ ถ้ามีความอดทนต่ออุปสรรคต่างๆ สิ่งที่ตั้งใจคือ จะตั้งเรียนเพื่ออนาคตแม่ และครอบครัวจะได้สบาย”