ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (9 มี.ค) ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร หรือ หม่อมโจ้ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ‘ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร‘ กล่าวถึงนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและอดีตนักการเมืองชื่อดัง ว่า อยากให้ทุกคนได้ฟัง เนวิน ชิดชอบ พูดเรื่อง ถ่านหิน ไม่ว่าจะชอบ หรือ ไม่ชอบเขา สิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ คือ เขาคือผู้ที่พลิกเมืองบุรีรัมย์ จากเมืองที่ไม่มีอะไรเลย ติด 1 ใน 10 จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำสุดของประเทศ มาเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเฉลี่ยปีละกว่า 1,200,000 คน ทำให้รายได้ครัวเรือนเฉลี่ยของชาวบุรีรัมย์เพิ่มขึ้นจากเดือนละ 13,742 บาทในปี 2552 กลายเป็นเดือนละ 18,480 ในปี 2558 ต่างจากองค์กรของรัฐบางองค์กร ไปที่ไหน ฉิบหายที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นความแตกแยกทางสังคม ความเสียหายทางเศรษฐกิจ และต่อสุขภาพชีวิต จนแม้แต่อากาศจะหายใจยังจะหายใจไม่ได้
“กระบี่เป็นเมืองที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก มี ทั้งทะเล ทั้งภูเขา ทั้งน้ำตก และทรัพยากรอื่น ๆ ที่บุรีรัมย์ไม่มี ซึ่งคุณเนวิน ‘เห็นแล้วอดเสียดาย อดเป็นห่วงไม่ได้ … ถ้าผม (บุรีรัมย์) มีแบบนี้ ผมจะรักษาด้วยชีวิตผม … ผมสู้ตายแน่นอนถ้าใครจะมาทำลาย’ สิ่งที่คุณเนวินได้พูด เป็นอะไรที่ควรฟังทีเดียว จากผู้ที่ต้องยอมรับว่ามีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาถิ่นเกิดของตัวเอง” ม.ล.รุ่งคุณ กล่าว
ม.ล.รุ่งคุณ กล่าวว่า โดยในเมื่อ กำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย อยู่ที่ 41,000 MW มากกว่าการใช้สูงสุด ซึ่งคือ 29,000 MW เกิน 40% ทั้งที่มาตรฐานของโลก Norm ในการสำรองคือเพียง 15% และ กำลังการผลิตรวมไฟฟ้าภาคใต้ อยู่ที่ 2,700 MW ขณะที่การใช้สูงสุดอยู่ที่ 2,650 MW ในเมื่อกำลังการสำรองการผลิตที่สูงเกินของประเทศ คือสาเหตุที่ค่าไฟแพง ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในประเทศ ย่อมไม่ใช่การทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรอันมีค่า แต่คือการขยายสร้างสายส่งเพื่อระบายไฟที่ล้นจากภาคอื่นไปภาคใต้ พร้อมรับซื้อจากพลังงานทางเลือกจากแหล่งที่มั่นคง ซึ่งมีอยู่แล้ว เพียงแค่นี้ก็ไม่มีความจำเป็นอันใดต้องพิจารณาการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ไปอีกอย่างน้อย 5 ปี