นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วมการเจรจา กับกลุ่มประเทศภายใต้ข้อตกลง CPTPP ในเดือนสิงหาคมนี้ เนื่องจากเห็นว่าการเข้าร่วมเจรจาทำให้เห็นถึงผลดีหรือผลเสียต่อการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีตามข้อตกลง ซึ่งกระบวนการในการเข้าร่วมนั้นยังมีขั้นตอนตามลำดับขั้น ทั้ง การผ่านประชาพิจารณ์ การเสนอให้รัฐสภาพิจารณาเห็นชอบ โดยกระบวนการต่างๆนั้นเชื่อว่ายังใช้เวลาอีกนานอย่างน้อย 4 ปี และหากเห็นว่าการเข้าเป็นประเทศภาคีจะเป็นโทษมากกว่าประโยชน์สามารถที่จะถอนตัวออกจากการเจรจาได้
แต่หากประเทศไทยไม่เข้าร่วมในการเจรจา จะทำให้ไม่รู้ถึงข้อตกลงภายใน อาจมีผลกับการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลกโดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศอาเซียน
ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เร็วๆนี้ทาง กกร.จะมีการจัดสัมมนา เปิดเวทีให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายสามารถที่จะเข้าร่วมเสนอมุมมองต่างๆผ่านเวทีของ กกร. ซึ่งทางภาคเอกชนจะรวบรวมนำไปเสนอให้กับรัฐบาล เป็นข้อสังเกตและหากพบว่าการเจรจาจะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบมากเกินไป กกร. จะคัดค้านอย่างแน่นอน