ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้ในข้อเท็จจริง พรรคเพื่อไทยมีการทำงานอย่างกลมเกลียวกัน หารือกันและต่างคนทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อให้พรรคเพื่อไทยแข็งแรง เป็นที่พึ่งของประชาชนในยามที่ประชาชนท้อแท้ พรรคเพื่อไทยไม่มีเวลามาทะเลาะกัน เพราะทุกคนได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน และประชาชนคาดหวังเพื่อจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ข่าวที่ออกมาทำให้กรรมการบริหารพรรคไม่สบายใจ เป็นแหล่งข่าวที่ออกมาทำลายความเชื่อมั่นต่อประชาชนและพรรคเพื่อไทย ส.ส.ทุกคนทำงานหนักในช่วงโควิด-19 แม้สภาจะปิด แต่ก็ทำงานภายใต้นายสมพงษ์ อย่างเข้มแข็ง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยไม่สบายใจกับข่าวที่เกิดขึ้น จึงอยากทำความเข้าใจกับทุกคน
ส่วนกรณีการแยกตัวของสมาชิกพรรคไปตั้งพรรคใหม่ นั้น นายสมพงษ์ กล่าวว่า การตั้งพรรคใหม่ ก็เพื่อให้มีส.ส.บัญชีรายชื่อเข้าสภา ส่วนตัวเชื่อว่าส.ส.ของพรรคเพื่อไทยยังอยู่กับพรรคตามเดิม บางครั้งรัฐบาลอยู่ในภวังค์ที่โซเซ ย่อมมีบุคคลที่ต้องเตรียมตัวเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคไทยรักษาชาติ แต่ทุกคนเป็นเพื่อนฝูงกันหารือกันตลอดเวลา ซึ่งเมื่อรัฐบาลกำลังเพลี้ยงพล้ำ ก็ต้องเตรียมตัวเท่านั้นเอง พรรคอื่นๆก็ต้องเตรียมตัวเช่นกัน อย่างพรรครัฐบาล ขอให้สบายใจกันได้
ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าในกรณีที่มี ส.ส.จะไปตั้งพรรคใหม่ เข้าใจดีว่ารัฐธรรมนูญออกแบบมาแบบนี้ไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดังนั้น ผู้เป็นนักการเมืองและต้องการเข้าสภาจึงไปทำพรรคการเมือง ต่างเป็นเรื่องดีทั้งนั้นเพราะยังอยู่กับซีกประชาธิปไตย เป็นความจำเป็นจากรัฐธรรมนูญและกติกาที่บิดเบี้ยว และเข้าใจกันดี
ขณะที่ นายสุทิน กล่าวว่า ในฐานะเป็นประธานวิปฝ่ายค้านที่ต้องทำงานกับส.ส. ที่ผ่านมาทุกคนก็รับปฏิบัติและสัญญาณจากพรรคชัดเจน ทำงานกับเพื่อนส.ส.ได้เป็นอย่างดีโดยไม่มีปัญหา ข่าวที่ปรากฎออกมานั้นขอความเป็นธรรมด้วยว่าไม่เป็นความจริง หากบุคคลที่มีเจตนาทำให้เกิดเรื่องก็ขอว่าอย่าทำอย่างนั้นอีก
ส่วนการตั้งพรรคมองว่าเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่การไปตั้งพรรคนั้นมีการเสนอข่าวที่ทำให้พรรคเดิมเสียหาย ยังมั่นใจว่าสมาชิกที่ไปก็ยังทำงานร่วมกันในอนาคตอีกยาว เพราะยังอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน และการยืนยันถึงความเป็นเอกภาพของพรรคได้ดีที่สุด คือ การทำงานในสภาที่ผ่านมา ถ้ารัฐธรรมนูญไม่เป็นอย่างนี้ เชื่อว่ายังอยู่ด้วยกันทั้งหมด แต่เมื่อรัฐธรรมนูญไม่มีทางแก้ได้จึงต้องมีการหาที่ยืน ก็เชื่อว่ายังจับมือทำงานได้กันเหมือนเดิม
