หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมอดีตภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ รอง.จเรตำรวจรเดินทางมาขอบคุณตำรวจกองปราบปรามหลังจับลุงบุญช่วยและลูกชาย

อดีตภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ รอง.จเรตำรวจรเดินทางมาขอบคุณตำรวจกองปราบปรามหลังจับลุงบุญช่วยและลูกชาย

เวลา 12.00 น. วันเดียวกัน น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท ภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ ได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมกับนำรูปภาพและอัฐิของ พล.ต.ต.ธารินทร์ เพื่อยืนดักเฝ้ารอพบกับนายบุญช่วย และ นายกิตติพงษ์ สองผู้ต้องหา หลังทราบข่าวว่าได้ถูกเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบนำกำลังเข้าจับกุมได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาและกำลังนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมยังกองบังคับการปราบปราม
น.ส.เขมจิรา กล่าวว่า หลังต่อสู้คดีมาหลายสิบปี เมื่อนายบุญช่วย กับบุตรชายถูกจับ จึงมาที่กองปราบเพื่อรอพบเจอ เพราะตนอยากให้พวกเขายอมรับความจริงว่านายสมพล ขายที่ดินให้พระกิตติวุฒโท ในนามมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุจริงหรือไม่ และจะชี้แจงอย่างไร สำหรับคดีที่นายบุญช่วย ฟ้องร้องตนเองฐานฟ้องเท็จเกี่ยวกับเรื่องการครอบครองที่ดินทั้งหมด 3 คดี ศาลชั้นต้นสั่งลงโทษจำคุกตนและทนายรวมทั้งหมด 7 ปี โดยรอลงอาญาไว้ก่อน ขณะนี้กำลังเตรียมยื่นอุทธรณ์
“อันที่จริงอดีตสามีของตนไม่ควรเสียชีวิตจากเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามตนก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบและสื่อมวลชนที่ช่วยติดตามข่าวจนทำให้ความจริงปรากฏ จนทำให้การเสียชีวิตของ พล.ต.ต.ธารินทร์ ไม่สูญเปล่า”

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นในการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งมีรายงานจากชุดจับกุมว่าในการตรวจค้นที่บ้านพักขณะจับกุมไม่พบเอกสารหลักฐานใดเกี่ยวกับการครอบครองที่ดิน แต่ในทางคดีนั้นทราบอยู่แล้วว่าผู้ต้องหาไม่มีเอกสารซื้อขาย แต่เป็นการสร้างหลักฐานเท็จโดยฟ้องศาลเพื่อให้ได้เอกสาร นส.3 เป็นของตนเองและโอนชื่อเป็นตนเองในปี 2553 อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในการสร้างหลักฐานเท็จนั้นต้องมีคนร่วมกระทำผิดมากกว่า 2 ราย แต่บางคดีก็หมดอายุความไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หนักใจเพราะมีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุจริง

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img