หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมบุกจับคาผ้าเหลือง หนีคดีร่วมน้องชายและเพื่อน ปล้นชิงทองแม่เฒ่าวัย 67 ขณะยืนรอใส่บาตร

บุกจับคาผ้าเหลือง หนีคดีร่วมน้องชายและเพื่อน ปล้นชิงทองแม่เฒ่าวัย 67 ขณะยืนรอใส่บาตร

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สว.กก.4 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายสมเย็น สุสังวร หรื พระสมเย็น อายุ 46 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 354/2557 ลงวันที่ 7 ส.ค. 2557 ข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม” ได้ที่ วัดดงยาง ม.4 ต.ดงเดือย อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2557 นายสมเย็น ผู้ต้องหารายนี้พร้อมด้วยนายสุวิทย์ สุสังวร น้องชายและนายสุพัฒน์ เชื้อเมืองพาน ร่วมกันก่อเหตุใช้กำลังทำร้ายร่างกายเพื่อปล้นทรัพย์ น.ส.ศิรพันธ์ บัณฑิตย์ อายุ 67 ปี ขณะกำลังยืนรอใส่บาตรตอนเช้าอยู่บริเวณหน้าบ้านในพื้นที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยทองคำหนัก 2 บาท ไป ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามจับกุมนายสุวิทย์และนายสุพัฒน์ ได้ คงเหลือเพียงนายสมเย็น ผู้ต้องหารายนี้ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่าปัจจุบันภายหลังก่อเหตุนายสมเย็น ได้หลบหนีคดีมาบวชเป็นพระอยู่ที่วัดดงยาง จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน นายสมเย็น ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ครั้ง เคยถูกจับเข้าออกเรือนจำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ทุกครั้งที่ก่อเหตุจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงสวมใส่สร้อยคอทองคำหลายเส้น ซึ่งเงินที่ได้ก็จะนำไปซื้อยาเสพติดมาแบ่งกันเสพ เพราะสมัยนั้นตนติดยาเสพติดอย่างหนักจนขาดสติ ทั้งนี้หลังก่อเหตุตนก็ไดเหลบหนีเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อย ๆ จนเรื่องเงียบจึงหนีมาบวชเป็นพระอยู่วัดดังกล่าว เพื่อหวังอาศัยผ้าเหลืองลบความผิดที่ได้กระทำไปแต่สุดท้ายหนีก็ไม่พ้นผลกรรมถูกจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองนนทบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img