หน้าแรกการเมือง'รสนา' ทุบ 'อธิบดีกรมศุลฯ' อย่าประวิงเวลาสืบนาฬิกา 'บิ๊กป้อม' จ่อร้อง ม.154 ให้ ป.ป.ช ฟันแน่!

‘รสนา’ ทุบ ‘อธิบดีกรมศุลฯ’ อย่าประวิงเวลาสืบนาฬิกา ‘บิ๊กป้อม’ จ่อร้อง ม.154 ให้ ป.ป.ช ฟันแน่!

เมื่อวานนี้ (7 มี.ค)น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) และอดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความเฟสบุ๊คส่วนตัว ‘Rosana Tositrakul‘ กล่าวว่า อธิบดีกรมศุลฯตีปี๊บตรวจเข้มภาษีนำเข้าบรรดาปลาซิวปลาสร้อย ส่วนภาษีนาฬิกาหรูของ บิ๊กป้อมยังใบ้อยู่ ใช่หรือไม่ อธิบดีกรมศุลกากรออกประกาศ 2 ฉบับตรวจเข้มผู้โดยสาร นำของติดตัวไปเมืองนอก “โน้ตบุ๊ก – กล้อง” ต้องแจ้งทุกครั้ง เว้นอากรของติดตัวไม่เกิน 2 หมื่น ถ้ามูลค่าไม่เกิน 2 แสน ชำระอากรปากระวางแบบเหมาๆ ได้ ส่วนของดิวตี้ฟรีซื้อแล้วต้องใช้เมืองนอก ถ้านำกลับเข้าประเทศต้องจ่ายอากร การเข้มงวดตรวจภาษีเพื่อไม่ให้มีการรั่วไหลเป็นสิ่งดี แต่อย่าใช้แต่กับชาวบ้านรายเล็กรายน้อยเท่านั้น เพราะเป็นการเลือกปฏิบัติและเป็นการใช้พละกำลังจับแต่ปลาซิวปลาสร้อย ส่วนปลาใหญ่แบบปลากะโห้กลับปล่อยให้เล็ดรอดลอยนวลหนีไปได้อย่างไร 

น.ส.รสนา กล่าวว่า กรณีที่ดิฉันร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีนาฬิกาหรู25เรือนของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จนป่านนี้ยังไม่ออกมาแถลงความคืบหน้าต่อสาธารณชน นอกจากไม่ตรวจสอบภาษีนำเข้านาฬิกาหรูแล้ว อธิบดีกรมศุลกากรยังปล่อยให้กรณีบริษัทน้ำมันต่างชาติยักษ์ใหญ่หลบเลี่ยงการเสียภาษีน้ำมันโดยมีการทำเอกสารสำแดงการส่งออกอันเป็นเท็จ ซึ่งตามกฎหมายของกรมศุลกากร อธิบดีมีหน้าที่ต้องสั่งปรับผู้หลบเลี่ยงภาษี โดยสำแดงส่งออกเป็นเท็จ เป็นจำนวน4เท่าของมูลค่าสินค้าที่รวมภาษีอากรแล้ว กรณีนี้น่าจะต้องปรับเป็นเงินหลายหมื่นล้านบาท ถ้ามีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ใช่หรือไม่

น.ส.รสนา กล่าวเพิ่มว่า ขอฝากความถึงอธิบดีกรมศุลกากรว่า ถ้ายังประวิงเวลา 2 กรณีใหญ่นี้ต่อไป ดิฉันจะร้องเรียนท่านต่อ ป.ป.ช ตามมาตรา 154 ในเวลาอันสมควรต่อไป

“มาตรา 154 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่หรือแสดงว่าตนมีหน้าที่เรียกเก็บหรือตรวจสอบภาษีอากร ค่าธรรมเนียม หรือเงินอื่นใด โดยทุจริตเรียกเก็บหรือละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากร ค่าธรรมเนียมหรือเงินนั้น หรือกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด เพื่อให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีอากรหรือค่าธรรมเนียมนั้นมิต้องเสีย หรือเสียน้อยไปกว่าที่จะต้องเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท”

น.ส.รสนา กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอส่งข้อกฎหมายมาตรา 154 มาเตือนใจท่านอธิบดีได้โปรดใคร่ครวญว่าในฐานะเจ้าพนักงานมีหน้าที่ตามกฎหมาย หากมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ทำให้ประเทศเสียประโยชน์แล้ว จะมีโทษหนักขนาดไหน เพื่อให้ท่านได้ธำรงวินัยของการเป็นข้าราชการเพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับรับเงินเดือนจากเงินแผ่นดินซึ่งคือเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ

 

Rosana


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img