หน้าแรกการเมือง"ธีรัจชัย" ซัดพรก.ช่วยผู้ประกอบการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่

“ธีรัจชัย” ซัดพรก.ช่วยผู้ประกอบการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึง พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท ว่า กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME เป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เป็นแหล่งจ้างงานสำคัญ การช่วยเหลือไม่ได้ไปถึงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME อย่างแท้จริง หาก SME ล้มไป หมายความว่าจะสะเทือนต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย แรงงานอย่างน้อย 12 ล้านคนจะต้องตกงาน

นายธีรัจชัย ตั้งข้อสังเกตว่า พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ สามารถเบี่ยงเบนไปเอื้อกลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้ เนื่องจากกำหนดเงื่อนไขให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปล่อยกู้สถาบันทางการเงินในอัตราดอกเบี้ย 0.01 และให้สถาบันการเงินปล่อยกู้กับผู้ประกอบการในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 โดยยกเว้นดอกเบี้ย 6 เดือน และให้เฉพาะผู้ประกอบการที่มีสินเชื้อกับธนาคารแต่ละแห่งไม่เกิน 500 ล้านบาท ทำให้กลุ่ม SME ได้รับประโยชน์หรือเข้าถึงน้อยมาก ผู้ได้รับประโยชน์ตัวจริงคือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ เพราะบริษัทไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่สามารถกู้ได้ทั้งหมด หากมีหนี้สินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อสถาบันการเงิน 1 แห่ง โดยธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยกู้ได้ตามอำเภอใจ เอื้อต่อกลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการสมคบระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่หรือไม่ ทำไมไม่เปิดโอกาสให้กลุ่มที่เป็น SME จริงๆ

นายธีรัจชัย อภิปรายว่ายังมีการกำหนดเงื่อนไขให้กู้เฉพาะผู้ประกอบการที่มีสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์เท่านั้น กรณีที่ไม่มีเงินกู้ ไม่มีหลักประกัน และกรณีเป็นหนี้เสีย ไม่เข้าข่ายได้รับสินเชื่อ SME ทั้งหมด 3 ล้านราย มีสินเชื่อกับธนาคารรัฐและธนาคารพาณิชย์เพียง 1.9 ล้านราย แต่อีก 1.1 ล้านราย ไม่มีสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์ และยังให้ใช้หลักเกณฑ์ว่าต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน จึงทำให้เหลือ SME เพียงไม่กี่รายที่มีโอกาสได้รับสินเชื่อ ยิ่งถ้าเป็นหนี้เสีย ก็จะถูกตัดออกจากระบบตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นมีเพียงกลุ่มทุนขนาดใหญ่และกลุ่มผู้ประกอบการสินเชื่อชั้นดีเท่านั้น ที่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะกลุ่มอื่นถูกตัดขาดหมด ซึ่งธนาคารมีจุดยืนเพื่อกำไรสูงสุด ดังนั้นการจะให้กู้ก็จะต้องเลือกลูกหนี้ชั้นดี เลือกลูกหนี้ที่มีหลักประกัน

นายธีรัจชัย กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ยืนยันได้ชัดเจนว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้ไม่ได้ช่วยเหลือกลุ่ม SME อย่างแท้จริง แต่เหมือนรัฐบาลจะรู้ว่าจะมีการอภิปรายเรื่องนี้ จนวันอังคารที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมีมติเพิ่มช่วยเหลือ SME จัดสรรวงเงินเพิ่มเติม 10,000 ล้านล้านบาท ให้กรณีที่ไม่มีสินเชื่อกับธนาคาร ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และมีหนี้เสีย สามารถกู้ได้ แต่ก็ยังคงเงื่อนไขเดิมไว้ซึ่งทำให้เอื้อกลุ่มทุนใหญ่อยู่ดี ทำให้ผู้ประกอบการ SME 3 ล้านราย เสี่ยงล้มไม่ต่ำกว่า 2 ล้านราย คนตกงานไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน มีผลกระทบเป็นลูกโซ่เพราะผลกระทบจากรัฐบาล ที่ยึดถือเพียงมาตรการสาธารณสุข แต่ลืมมาตรการทางเศรษฐกิจ เกิดการยึดทรัพย์โดยธนาคาร ทำให้นายทุนรายใหญ่มาช้อนซื้อสินทรัพย์ดีๆ ในราคาถูก สร้างความเหลื่อมล้ำให้เกิดเพิ่มขึ้นไปอีก ส่งผลกระทบให้กลุ่มทุนมีขนาดใหญ่ขึ้น กำหนดราคาสินค้า ผูกขาดตลาดในอนาคต ทำให้คนรวยไม่กี่ตระกูลของประเทศกำหนดอะไรก็ได้

นายธีรัจชัย กล่าวว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้ จึงไม่สามารถช่วยเหลือ SME ได้ มีแต่ซ้ำเติมให้หายไป จึงขอให้รัฐบาลทบทวนใส่ใจประชาชน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำลาย SME และทำร้ายประชาชนไม่น้อยกว่า 29 ล้านคน จึงขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องเหล่านี้

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img