หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมกองปราบรวบแม่ค้าออนไลน์ หลอกขายหน้ากากอนามันช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดผ่านทางเฟสบุ๊ก

กองปราบรวบแม่ค้าออนไลน์ หลอกขายหน้ากากอนามันช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดผ่านทางเฟสบุ๊ก

29 พค.กองกํากับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอํานวยการและสั่งการของ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์ พ่วง ผบช.ก., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ป. ว่าที่ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม, พ.ต.ท.มนูญ แก้วกล่ำ พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา และ พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ต.จักรี กันธิยะ สว.กก.4 บก.ป., พวกได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา จํานวน 1 ราย ดังนี้
น.ส.สุชัญญา (สงวนนามสกุล )อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ จ.715/2563ลง วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

โดยเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมาเป็นช่วงสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด อย่างหนักทั่วโลก จึงทําให้ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก และสินค้าบางประเภทเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงสินค้าบางประเภท เช่น หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ฯลฯ กลายเป็นสินค้าที่ถูกควบคุมตามมาตร าการของ รัฐบาล เกิดการกักตุนสินค้า โก่งราคาสินค้า และกลโกงมากมายทางการตลาด สํานักงานตํารวจแห่งชาติจึงได้มี นโยบายเร่งดําเนินการสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้กระทําผิดที่มีพฤติการณ์ซ้ําเติมความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อป้องกัน ความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง

ต่อมาเมื่อประมาณต้นเดือนเมษายน2563 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจํานวนหลายร้อยรายรวมรายชื่อ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม กรณี ถูกพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ที่โพสต์ประกาศขาย หน้ากากอนามัยผ่านทางเฟสบุ๊ก พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม จึงได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กํากับการ 4.กองบังคับการปราบปราม จัดทีมสืบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิด และจับกุมตัวผู้กระทําผิดมาดําเนินคดี
จนกระทั่งสืบทราบว่า นางสาวสุชัญญา ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์ในการกระทําผิดในลักษณะหลอกลวงขาย หน้ากากอนามัยผ่านทางเฟสบุ๊ก โดยผู้ต้องหารายนี้ได้ทําการสมัครเปิดบัญชีเฟสบุ๊กเป็นของตัวเอง จากนั้นจึงได้ สมัครเป็นสมาชิกของ “เพจหน้ากากอนามัย” ซึ่งเป็นเพจที่มีการซื้อขายหน้ากากอนามัยเป็นจํานวนมาก จากนั้น นางสาวสุชัญญาได้นํารูปภาพสินค้าหน้ากากอนามัยจํานวนมากมาโพสประกาศขายในเพจดังกล่าว โดยเน้นโฆษณา ประกาศขายในราคาที่ถูกกว่าผู้ค้ารายอื่น ๆ ในเพจเดียวกัน จึงทําให้มีลูกค้าสนใจเป็นจํานวนมาก เมื่อลูกค้าคนไหน

สนใจสั่งซื้อหน้ากากอนามัยก็จะทําการติดต่อผ่านทางแอพพลิเคชั่น แมสเซนเจอร์ ( Messenger) เพื่อพูดคุย รายละเอียดการซื้อขาย
พฤติการณ์ของนางสาวสุชัญญา จะให้สัญญากับลูกค้าว่า ถ้าโอนเงินค่าหน้ากากอนามัยให้ครบตามจํานวนที่ ตกลงกันแล้วก็จะดําเนินการส่งหน้ากากอนามัยให้ทันทีพร้อมกับส่งหมายเลขการจัดส่งให้ด้วยต่อมาเม่อืลูกค้าที่ สนใจได้ดําเนินการโอนเงินค่าหน้ากากอนามัยให้กับนางสาวสุชัญญาแล้ว ปรากฏว่า นางสาวสุชัญญาไม่ยอมส่ง หน้ากากอนามัยให้ตามที่ตกลง และทําการผัดผ่อนเรื่อยมา จนกระทั่งได้ปิดบล็อกช่องทางการติดต่อทําให้ลูกค้าซึ่ง เป็นผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อขอเงินคืนได้ จึงทําให้มีผู้เสียหายได้รับความเสียหายเป็นจํานวนมาก จากการ ตรวจสอบบัญชีพบว่าในช่วงเดือนมีนาคม มีการโอนเงินเข้าบัญชีนางสาวสุชัญญากว่า 5-6 แสนบาท ซึ่งคาดว่าเป็นค่าหน้ากากอนามัยที่ลูกค้าได้โอนให้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจกองกํากับการ 4.กองบังคับการปราบปราม ได้ทําการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้อง และได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับนางสาวสุชัญญา จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาราย ดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน กองกํากับการ 4.กองบังคับการปราบปรามดําเนินคดีต่ อไป จากการสอบถาม ภายหลังการจับกุม ผู้ต้องหารับว่า ได้กระทําผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริงและรับอีกว่าเงินที่ได้มาถูกนําไปใช้หมดแล้ว

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img