นายธีรัจชัย พันธุมาศ’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายชัยธวัช กล่าวถึงการยื่นหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานรัฐสภา เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีและสมาชิกภาพของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สิ้นสุดลงหรือไม่ ใน 2 กรณี คือ เนื่องจากมีการถือหุ้นในตลาดคลองเตย และถูกจำคุกในประเทศออสเตรเลียในคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติด และในเรื่องนี้ก็จะนำไปสู่การขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีด้วย
ด้านนายธีรัจชัย กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ได้อภิปรายในสภานั้น ตนทำในกรอบกติกาทางการเมือง ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส ได้มีการแจ้งความหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาในการแถลงข่าวอภิปรายไม่ไว้รัฐบาล ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพะเยานั้น ตนมองว่า ทำไมถึงไปแจ้งไกลขนาดนั้น ตนไม่ได้มีปัญหาที่ถูกแจ้งความ แต่สงสัยว่าทำไมถึงไม่แจ้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่สามารถเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนและต่อสู้คดีได้ตามปกติ การแจ้งไกลขนาดนี้มองว่าเป็นการเสียเวลา เพราะเวลาที่จะเดินทางไปกลับนั้นควรเป็นเวลาที่จะเอาไปทำงานเพื่อประชาชน จึงมีความสงสัยในประเด็นนี้ว่าจะมีการสร้างพยานหลักฐานอะไรหรือไม่ และหลังจากนี้ คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(กมธ.ป.ป.ช.) จะเชิญร้อยเอกธรรมนัสเข้ามาชี้แจงด้วยโดยขณะนี้ได้มีหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดียาเสพติดที่ประเทศออสเตรเลีย
เมื่อการแถลงข่าวจบลงนายธีรัจชัย ได้เจอกับร้อยเอกธรรมนัส ที่มารอแถลงข่าวจึงได้กล่าวเชิญให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงที่ กมธ. ป.ป.ช.
“ธรรมนัส” ขอบคุณก้าวไกลยื่นศาลรธน.
ภายหลังจากที่พรรคก้าวไกลแถลงการยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้พิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสร็จสิ้น ร.อ.ธรรมนัส ได้เดินเข้ามาภายในห้อง เพื่อรับสือร้องเรียนจากชาวบ้านจังหวัดสุราษฎรธานี เรื่องการทำประมงพื้นบ้าน ทำให้เจอกับนายธีรัจชัย พันธุมาส ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และเป็น กมธ.ปปช. จึงใช้โอกาสนี้เชิญให้ร.อ.ธรรมนัส ไปให้ข้อมูลกรรมาธิการด้วย ซึ่งเจ้าตัวได้พยักหน้าและขอตัวไปรับเรื่องร้องเรียนจากชางบ้านก่อน
ทั้งนี้ ภายหลังรับหนังสือร้องเรียน ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคก้าวไกล ที่ทำให้เรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้อง เพราะกระบวนการของสภาไม่สามารถชี้สถานภาพความเป็น.ส.ส. หรือ รัฐมนตรีได้ สุดท้ายต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส่วนที่ตนเองแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ส. พรรคก้าวไกล ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นเพราะ ส.ส.บางคน เหมือนเด็กฟันกำลังจะออก พูดไปเรื่อย ไม่คำนึงถึงกฎหมายว่าจะละเมิดสิทธิตนและครอบครัว ซึ่งตนเองจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จะไม่อยากมัดมือมัดเท้าตนเอง โดยไม่แจ้งความที่จังหวัดพะเยาเพราะเป็นพื้นที่ของตนเอง และทีมกฎหมายอยู่ที่นั่น ไม่ได้หวังจะกลั่นแกล้งใคร ซึ่งแม้ว่าคดีกมิ่นประมาทจะมีโทษเพียงเล็กน้อย แต่การพูดแต่ละครั้ง ถือเป็นการทำผิดต่างกรรมต่างวาระ พูด 10 ครั้ง ตนก็เอาผิดได้ 10 ครั้ง และขู่ว่าตนยังมีบ้านที่อ.ตากใบ นราธิวาส
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส เชื่อว่า เรื่องนี้จะไม่กระทบเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะตอนนี้รัฐบาลมีสมาชิกฝ่ายรัฐบาลเกือบ 270 คน หากตนมีปัญหาคนเดียวคงไม่มีปัญหา และเมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการของศาลแล้วก็ควรเคารพกฎหมายและคำตัดสิน และส่วนตัวก็พร้อมที่จะต่อสู่ในชั้นศาล ส่วนการชี้แจงกับกมธ. ปปช. ทีมกฎหมายของตนกำลังดำเนินการอยู่ เพราะ กมธ. มีสิทธิเชิญ แต่ตนก็สามารถเลือกได้ว่าจะไปชี้แจงเรื่องไหนอย่างไร