ดังนั้น จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาและวินิจฉัยมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 ขัดหรือแย้งต่อมาตรา 197 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่
“ศรีสุวรรณ” ค้าน พรก.กู้เงิน ซื้อตราสารหนี้ของนักลงทุนรายใหญ่ ยื่นศาลวินิจฉัย ชี้เป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนที่ไม่ถูกต้อง พร้อมยื่นตรวจสอบเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับเงินสินบนโรงแรมกักตัว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พ.ร.ก.เงินกู้ 3 ฉบับ ที่ออกมานั้น 2ฉบับแรกเห็นสมควรในการกู้เงินเพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่ได้นับความเดือดร้อนรวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยด้วย แต่ในพ.ร.ก.กู้เงินฉบับที่3 คือการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ 2563 ที่ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อมาซื้อตราสารหนี้ของนักลงทุนรายใหญ่ มองว่าไม่ถูกต้องเพราะตราสารหนี้ เป็นธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งผู้ที่ครอบครองต้องรู้ดีแล้วว่าเป็นธุรกิจตามปกติ การที่ออก พ.ร.ก.นี้ออกมามองว่าเป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนที่ไม่ถูกต้อง โดยวิธีการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ออกใหม่โดยในระยะเริ่มแรกให้หักกองทุนมีวงเงินไม่เกิน 4 แสนล้านบาทโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ดังนั้นจึงขอให้เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณา ว่าพ.ร.ก.ดังกล่าวเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 172 ประกอบมาตรา 140 หรือไม่
พร้อมกันนี้ได้ยื่นหนังสือให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบ การทำหน้าที่ของเจ้าพนักงานของรัฐ ที่มีกระแสข่าวว่าเรียกรับเงินสินบน 30-40 % จากเงินของรัฐที่จ่ายให้1000บาทต่อคนต่อวัน จากโรงแรมที่พักกักตัวในจ.ชลบุรี ของคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ และทราบมาว่าบุคคลที่ไปดำเนินการเช่นนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย และขอให้ตรวจสอบนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเพราะได้มีการออกมาปฏิเสธทันทีหลังจากที่มีข่าวออกมาโดยไม่ได้มีการตรวจสอบเสียก่อน จึงมีเหตุอันสงสัยว่าร่วมกระบวนการนี้ด้วยหรือไม่