ที่โรงแรมดุสิตธานี อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงความคืบหน้าผลสอบทุจริตเงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งว่า ทั้งนี้จากข้อมูลการลงพื้นที่ของทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) โดยของป.ป.ท.พบทุจริตเพิ่มอีก 10 แห่ง และที่สงสัยอีก 22 จุดที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ล่าสุดปรับย้ายออกจากพื้นที่แล้ว 4-5 คนเป็นระดับอธิบดี โดยข้อมูลผลสอบทั้ง 2 หน่วยงานจะนำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งข้อมูลของป.ป.ท.และของพม.ยังไม่ตรงกัน เนื่องจากป.ป.ท. งานตรวจพบทุจริตอุดหนุนในส่วนของศูนย์คนไร้ที่พึ่งและนิคมสร้างตนเองมีจำนวน 16 แห่ง และที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าอาจทุจริต 22 แห่ง แต่พม.รายงานจำนวนน้อยกว่า จึงต้องตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูล อย่างไรก็ตามจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารายงานความคืบหน้าการตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้องทราบได้ปรับย้ายตำแหน่งประมาณ4-5 ราย
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา น.ศ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่ของพม.เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต อ้างว่าโดนทุบหลัง กราบเท้าคนผิด แล้วยังถูกอาจารย์หาว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายกย่องที่นักศึกษาคนดังกล่าวออกมาเปิดเผยเรื่องนี้และต้องได้รับการคุ้มครอง และต้องให้การสนับสนุน และหากมีโอกาสจะเชิญนักศึกษาคนดังกล่าวมาพบและพูดคุย ที่กระทรวงพม. เพื่อเป็นตัวอย่างทำให้สังคมเห็นว่าการกระทำเช่นนี้ถือเรื่องที่ดีและจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบถามและดูแลความปลอดภัยต่อไป และการที่อาจารย์จะลงโทษนักศึกษาคนดังกล่าว ทางกระทรวงศึกษาธิการควรตั้งกรรมการไปสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่เพราะถือว่าเด็กทำเรื่องที่ดี แล้วถามว่าอาจารย์ไปทำเช่นนั้นได้อย่างไร และทางมหาวิทยาลัยควรให้การดูแลนักศึกษาคนดังกล่าวด้วย
เมื่อถามว่าจะสั่งสอบเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า เดี๋ยวจะตรวจสอบให้ เรื่องนี้ตนไม่ปล่อยไว้หรอก เมื่อถามต่อว่า หากพบว่าทำร้ายจริงจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ต้องแยกกัน หากอาจารย์ลงโทษเด็ก กระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลต้องเข้าไปดูว่า เด็กทำความดีแล้วทำให้รู้ว่ามีเรื่องนี้ แต่ทำไมไปทำร้ายเด็ก ถ้ามีจริงต้องตั้งคณะกรรมการสอบ