แนวคิดดังกล่าวมีจุดอ่อนมากมาย เช่น (1) ปั๊ม ปตท. ทั่วประเทศมี 1,700 แห่ง (ข้อมูลปี 2562) ซึ่งอยู่ห่างกันใครจะเป็นผู้ขนสินค้าเกษตรมาส่งที่ปั๊ม (2) ใครเป็นผู้กำหนดราคาสินค้า ถ้าเกษตรกรและเจ้าของปั๊มไม่ยอมรับราคานั้นจะทำอย่างไร (3) ผักและผลไม้เป็นของเน่าเสีย ถ้าขนมาถึงปั๊มเกิดช้ำและเสียหายใครจะรับผิดชอบ (4) ถ้าลูกค้าที่เติมน้ำมันไม่เอาของแถมเป็นผลไม้หรือของเหลือจะทำอย่างไร
ส่วนการอบรมคนตกงานเข้าสู่ภาคเกษตรซึ่งคาดว่าจะมีคนตกงาน 7.5-10 ล้านคน คำถามคือจะเอาที่ดินที่ไหนให้ปลูกและจะปลูกอะไร สินค้าเกษตรของไทยมีปัญหาในเรื่องการตลาดที่รัฐบาลประยุทธ์ไม่เคยดูแลได้จนกำลังซื้อทั้งประเทศตกทำเศรษฐกิจแย่จนคนต้องฆ่าตัวตายก่อนโควิดแล้ว ก่อนจะสนับสนุนให้ชาวบ้านปลูกจะต้องสำรวจตลาดก่อน
ส่วนเรื่องการเสริมสร้างสมรรถนะ และการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข ตนเคยพูดไปหลายครั้ง แต่ถ้าจะให้แนะนำอีกจะบอกว่าความขยันในบางเรื่องถ้าลดลงบ้างก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ